HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทั้ง 3 ดัชนีหลักปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์ – S&P 500 ฟื้นตัวช่วงท้ายชั่วโมงซื้อขาย มาปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากร่วงลงระหว่างวันหลังความเห็นประธานเฟดระบุไม่เร่งรีบลดดอกเบี้ย นักลงทุนยังจับตาข้อมูลจ้างงาน ด้าน “ราคาน้ำมันดิบ” ทรงตัว ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดลบ
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) วันที่ 30 กันยายน 2567 ปิดที่ 42,330.15 จุด เพิ่มขึ้น 17.15 จุด หรือ +0.04% แม้นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)กล่าวว่า เฟดไม่เร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย
ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 5,762.48 จุด เพิ่มขึ้น 24.31 จุด, +0.42%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 18,189.17 จุด เพิ่มขึ้น 69.58 จุด, +0.38%
ดัชนีดาวโจนส์และดัชนี S&P 500 ฟื้นตัวในช่วงท้ายชั่วโมงซื้อขาย มาปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ จากที่ร่วงลงหลังการให้ความเห็นของนายพาวเวลล์ ส่งผลให้ดัชนีหลักทั้งสามปิดบวกในเดือนกันยายนและในไตรมาสนี้ ในเดือนนี้ ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.9% และดัชนี Nasdaq เพิ่มขึ้น 2.7% และดัชนี S&P 500 เพิ่มขึ้น 2% ซึ่งเป็นการปิดบวกครั้งแรกในเดือนกันยายนนับตั้งแต่ปี 2019
นาย พาวเวลล์ กล่าวสุนทรพจน์เมื่อวันจันทร์ที่งานเสวนา National Association for Business Economics ว่า อาจมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีกในอนาคต แต่เตือนว่าเฟดไม่ได้กำหนดแนวทางไว้ล่วงหน้า หากเศรษฐกิจเคลื่อนไหวตามที่คาดไว้ ก็คาดว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 2 ครั้งครั้งละ 0.25% รวมเป็น 0.50% ในปีนี้
“คณะกรรมการไม่ได้รู้สึกว่าต้องเร่งรีบที่จะลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว” นายพาวเวลล์กล่าว
นักลงทุนคาดว่ามีโอกาส 35% ที่เฟดจะลดดอกเบี้ย 0.50%ในเดือนพฤศจิกายน แต่ซึ่งลดลงจากประมาณ 37% ก่อนการกล่าวสุนทรพจน์ของนายพาวเวลล์ และ 53% ในวันศุกร์ จาก FedWatch Tool ของกลุ่ม CME Group
อดัม ไครซาฟุลลี จาก Vital Knowledge กล่าวว่า นายพาวเวลล์มีท่าทีเข้มงวดเล็กน้อยแต่เฟดยังลดดอกเบี้ยได้อีกมาก คำกล่าวของประธานเฟดดูเหมือนจะส่งสัญญานให้ตลาดว่าควรประมองไปที่การลดลง 0.50% แทนที่จะเป็น 0.75% ในช่วงที่เหลือของปี
นักลงทุนยังจับตาการรายงาน จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงาน การเปิดรับสมัครงานและอัตราการหมุนเวียนของแรงงาน (JOLTS) และการจ้างงานนอกภาคเกษตรในสัปดาห์นี้
เอียน ลินเยน จาก BMO ระบุในบทวิเคราะห์ว่า รายงานการจ้างงานในวันศุกร์เป็นข้อมูลหลักในสัปดาห์นี้ โดยชี้ว่าตัวเลข JOLTS เดือนสิงหาคมที่จะเผยแพร่ในวันอังคาร น่าจะตอกย้ำแนวคิดที่ว่าตลาดแรงงานที่คลายความร้อนแรงได้กลายเป็นบรรทัดฐานใหม่
นักกลยุทธ์และนักเศรษฐศาสตร์ของ Bank of America ระบุไว้ในรายงาน BofA Global
Research ว่า การจ้างงานยังคงเป็นปัจจัยที่ใหญ่ที่สุดต่อตลาดหุ้นสหรัฐฯ จนกระทั่งถึงการเลือกตั้ง
เดวิด เมริเคิล นักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs คาดว่ารายงานการจ้างงานเดือนกันยายนที่จะออกมาในวันศุกร์แข็งแกร่งกว่า 146,000 รายที่นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดการณ์
แม้ประเมินว่าเฟดมีแนวโน้มปรับลดอัตราดอกเบี้ย แต่นักลงทุนยังเผชิญกับความเสี่ยงหลายประการ ซึ่งรวมถึงความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในตะวันออกกลาง และการนัดหยุดงานของคนงานท่าเรือที่ท่าเรือสำคัญของสหรัฐฯ ในวันอังคาร
นายออสตัน กูลส์บี ประธานเฟดแห่งชิคาโก แสดงความกังวล กับ Fox Business เกี่ยวกับ supply shock หากการนัดหยุดงานลากยาว ซึ่งจะเพิ่มต้นทุนในการทำธุรกิจและนำไปสู่ภาวะขาดแคลน
นายราฟาเอล บอสติก ประธานเฟดแห่งแอตแลนตากล่าวกับรอยเตอร์ว่า เขาเปิดรับการผ่อนคลายนโยบายอีก 0.50%ในการประชุมของธนาคารกลางเดือนพฤศจิกายน หากข้อมูลที่จะเข้ามาแสดงให้เห็นว่าการจ้างงานเพิ่มน้อยกว่าที่คาดไว้
ตลาดยุโรปปิดลบ นำโดยกลุ่มรถยนต์ชั้นนำ หลังจากที่บริษัทยักษ์ใหญ่ในอุตสาหกรรมอย่าง Stellatis และ Volkswagen ออกมาเตือนเรื่องกำไร แม้ว่าตลาดปิดบวกในไตรมาสนี้และเดือนกันยายนก็ตาม
ดัชนี STOXX 600 เพิ่มขึ้นกว่า 2% ในไตรมาสเดือนกรกฎาคม-กันยายน และเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน
หุ้นรถยนต์ยุโรปลดลง 4% โดยหุ้น Stellantis NV ในตลาดหลักทรัพย์มิลาน ลดลง 14.7% หลังจากที่ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่อันดับสองของยุโรปปรับลดคาดการณ์กำไรในปี 2567 และเตือนว่าอาจจะใช้เงินสดมากกว่าที่คาดไว้
Volkswagen ซึ่งเป็นคู่แข่งรายใหญ่ยังได้ปรับลดคาดการณ์แนวโน้มของปีเป็นครั้งที่สองในรอบไม่ถึง 3 เดือนเมื่อวันศุกร์ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทร่วงลง 4.3%
นางคริสติน ลาการ์ด ประธานธนาคารกลางยุโรป( ECB) กล่าวเมื่อวันจันทร์ว่า ธนาคารกลางมีความมั่นใจมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อจะลดลงสู่เป้าหมาย 2% และจะสะท้อนให้เห็นในการดำเนินนโยบายครั้งต่อไป ซึ่งเป็นการส่งสัญญานที่ชัดเจนที่สุดเกี่ยวกับการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไป
นักลงทุนรอความเห็นของประธานเฟด เจอโรม พาวเวลล์ในช่วงท้ายของวัน และจับตาการายงานงินเฟ้อยูโรโซนในวันอังคาร
ในวันจันทร์ ข้อมูลเบื้องต้นแสดงให้เห็นว่าอัตราเงินเฟ้อของเยอรมนีเดือนกันยายนลดลงสู่ระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2021 อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลยูโรโซนลดลง
เศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรในไตรมาสที่สอง ขยายตัวช้ากว่าที่คาด
ดัชนี STOXX 600 ปิดตลาดที่ระดับ 522.89 จุด ลดลง 5.19 จุด, +0.98%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 8,236.95 จุด ลดลง 83.81 จุด, -1.01%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,635.75 จุด ลดลง 156.04 จุด, -2.00%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 19,324.93 จุด ลดลง 148.70 จุด, -0.76%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 68.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน ลดลง 21 เซนต์ หรือ 0.29% ปิดที่ 71.77 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
————————————————————————————————————————————————