HoonSmart.com>> ตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดบวก ดัชนีดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 213 จุด รอรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญทั้งเงินเฟ้อและการจ้างงาน การรายงานผลประกอบการ ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ ปิดที่ 80.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ฟาก “ตลาดหุ้นยุโรป” ปิดบวก
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดวันที่ 28 สิงหาคม 2566 ที่ 34,559.98 จุด เพิ่มขึ้น 213.08 จุด หรือ 0.62% นักลงทุนก้าวรอการรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญทั้งเงินเฟ้อและการจ้างงาน รวมทั้งการรายงานผลประกอบการ
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,433.31 จุด เพิ่มขึ้น 27.60 จุด, +0.63%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 13,705.13 จุด เพิ่มขึ้น 114.48 จุด, +0.84%
ตลาดได้รับแรงหนุนจากการปรับขึ้นของหุ้น 3M หลังบลูมเบิร์กรายงานข่าวว่า บริษัทตกลงในเบื้องต้นที่จะจ่ายเงินกว่า 5.5 พันล้านดอลลาร์ เพื่อยุติคดีความที่กล่าวหาว่าบริษัทขายที่อุดหู (earplug) มีตำหนิให้กับกองทัพสหรัฐ
หุ้น Nvidia นำการปรับขึ้นในกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่( megacaps) บวก 1.8% หุ้นไมโครซอฟต์ บวก 0.22% หุ้นอัลฟาเบท บวก 0.87%
ดิแลน เครเมอร์ ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนร่วมของ Certuity กล่าวว่า ตลาดวันนี้เป็นการเล่นกลุ่มวัฏจักร(cyclical)เมื่อเทียบกับเทคโนโลยี ซึ่งมาจากการเติบโตที่แข็งแกร่งกว่าที่คาดไว้นอกสหรัฐอเมริกา นักลงทุนเริ่มให้ความสำคัญกับกลุ่มวัฏจักรมากกว่าเทคโนโลยีในระยะสั้น
ในช่วงเริ่มต้นสัปดาห์ ไม่มีการประกาศผลประกอบการที่สำคัญ นักลงทุนจำนวนมากขึ้นเตรียมรับอัตราดอกเบี้ยที่ปรับสูงขึ้นเป็นระยะเวลานานขึ้น หลังถ้อยแถลงของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟดในการประชุมเศรษฐกิจประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ว่าพร้อมที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มเติมตามความเหมาะสม แต่ย้ำจะดำเนินการอย่างระมัดระวัง ด้วยการพิจารณาข้อมูลเศรษฐกิจ
จากเครื่องมือ FedWatch ของ CME Group เทรดเดอร์ให้น้ำหนักกว่า 20% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในการประชุมเดือนกันยายน นักลงทุนยังจับตาการรายงานดัชนีการใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคส่วนบุคคลมาตรวัดอัตราเงินเฟ้อที่เฟดให้ความสำคัญ ในวันพฤหัสบดี และการจ้างงานนอกภาคเกษตรในเช้าวันศุกร์
หุ้นโกลด์แมน แซคส์ เพิ่มขึ้น 1.8% หลังบรรลุข้อตกลงขายธุรกิจบริหารการเงินส่วนบุคคล (Personal Financial Management) ให้กับ Creative Planning
หุ้น Salesforce บวก 0.9% ก่อนการรายงานผลการดำเนินงานในวันพุธ
หุ้นบริษัทจีนที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น หลังรัฐบาลจีนประกาศมาตรการพยุงตลาดหุ้น โดยหุ้น JD.com หุ้นไป่ตู้ และหุ้นอาลีบาบา ต่างเพิ่มขึ้นกว่า 2%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก การปรับตัวขึ้นมากที่สุดในรอบ 1 เดือน นำโดยกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีธุรกิจในจีน หลังจากจีนประกาศมาตรการพยุงตลาดหุ้น และได้แรงหนุนจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เพิ่มขึ้น 1.7% ตามหุ้น megacap ในตลาดหุ้นสหรัฐ เพราะที่นักลงทุนยังคงคาดว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยุติการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนกันยายน แม้ในการประชุมที่แจ็กสัน โฮลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมานายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟดได้ย้ำถึงความจำเป็นในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกก็ตาม
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำการเนื่องในวันหยุดธนาคารในช่วงฤดูร้อน
หุ้นกลุ่มรถยนต์และกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีธุรกิจในจีน เพิ่มขึ้น 0.8% และ 1.3% ตามลำดับ หลังจากกระทรวงการคลังของจีนปรับลดภาษีอากรแสตมป์ในการซื้อขายหุ้นลงครึ่งหนึ่งเพื่อกระตุ้นตลาดทุน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุน
หุ้นกลุ่มสินค้าหรูที่พึ่งพิงตลาดจีน ทั้งอาทิหุ้น LVMH หุ้น Kering และหุ้นต่างเพิ่มขึ้นกว่า 1%
หุ้นกลุ่มธนาคารบวก 1.6% แม้มีข้อมูลว่าการปรับอัตราดอกเบี้ยให้สูงขึ้นมากมีผลต่อการปล่อยสินเชื่อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ โดยสินเชื่อที่ให้แก่ภาคธุรกิจในเดือนกรกฎาคมชะลอตัวลง
หุ้น UBS บวก 1.7%
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 455.41 จุด เพิ่มขึ้น 4.02 จุด หรือ +0.89%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 7,324.71 จุด เพิ่มขึ้น 95.11 จุด หรือ +1.32%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 15,792.61 จุด เพิ่มขึ้น 160.79 จุด หรือ +1.03%
ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนตุลาคม เพิ่มขึ้น 27 เซนต์ หรือ 0.3% ปิดที่ 80.10 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคม ลดลง 6 เซนต์ หรือประมาณ 0.1% ปิดที่ 84.42 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล