TISCO ชูกำไร 1,749 ล้านบ. Q2/67 ลดลง 5.7% ตั้งสำรองเพิ่ม-รายได้โต  

HoonSmart.com>>”ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป” (TISCO) ประเดิมแจงผลงานของกลุ่มธนาคาร ไตรมาส 2/67 กำไรสุทธิ 1,748.99 ล้านบาท ลดลง 104.90 ล้านบาท หรือ 5.7 % จากช่วงเดียวกันปีก่อน แต่ดีขึ้นกว่าไตรมาสแรก  ส่วนครึ่งปีแรกกำไรสุทธิ  3,482 ล้านบาท ลดลง  4.5% จากการตั้งสำรองเพิ่มขึ้น รายได้จากการดำเนินงานโตขึ้นได้ธุรกิจวาณิชธนกิจหนุน แบงก์-หลักทรัพย์ชะลอตัว บล.กรุงศรีมองกำไรไตรมาส 2  ดีเกินคาด TISCO เด่นผลตอบแทนปันผล 7-8% ต่อปี คาดครึ่งปี 2%

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) เปิดผลงานงวดไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 1,748.99 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.18 บาท
ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 1,853.89 ล้านบาท กำไรสุทธิต่อหุ้น 2.32 บาท แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาส1/2567  จำนวน 15.97 ล้านบาท หรือ 0.9% ส่วนอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) อยู่ที่ 16.4%

รวม 6 เดือนแรกปีนี้มีกำไรสุทธิ 3,482.01 ล้านบาท เท่ากับ 4.35 บาทต่อหุ้น ลดลงจากที่มีกำไรสุทธิ 3,646.47 ล้านบาทหรือ 4.55 บาทต่อหุ้นในช่วงเดียวกันปีก่อน และมีอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) อยู่ที่ร้อยละ 16.6%

กำไรในไตรมาสที่ 2/2567 ลดลง 104.90 ล้านบาท หรือ 5.7 % จากไตรมาส 2/2566 สาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มสูงขึ้น รายได้จากการดำเนินงานเพิ่มขึ้น 5.5% ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจวาณิชธนกิจ และการรับรู้ผลกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ส่งผลให้รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยดีขึ้น 17.1% ส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิขยายตัว 0.9% ตามการเติบโตของสินเชื่อ แม้ว่าต้นทุนทางการเงินยังคงเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์และธุรกิจจัดการกองทุนฟื้นตัวจากงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า แต่ธุรกิจหลักทรัพย์ยังคงอ่อนแอ เป็นไปตามมูลค่าการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ซบเซา

“ผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.7% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย เพื่อสะท้อนความเสี่ยงของลูกหนี้ที่เพิ่มสูงขึ้นเนื่องมาจากการเติบโตของสินเชื่อในกลุ่มที่มีอัตราผลตอบแทนสูง และปัจจัยทางเศรษฐกิจที่ยังคงเปราะบาง”

ส่วนกำไรครึ่งปีนี้ลดลง 164.45 ล้านบาท หรือ  4.5% เมื่อเทียบกับงวดครึ่งปีแรกของปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นที่เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 0.6% ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย ส่วนรายได้รวมจากการด าเนินงานปรับตัวดีขึ้น 3.8% จากรายได้ดอกเบี้ยสุทธิที่เติบโต  3.1% ตามการขยายตัวของสินเชื่อ อย่างไรก็ดีต้นทุนทางการเงินยังคงอยู่ในทิศทางเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอีก  49.9% ด้านรายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 5.5% จากรายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจวาณิชธนกิจ และการรับรู้ผลกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุน (FVTPL) ในขณะที่ธุรกิจหลักทรัพย์ และธุรกิจธนาคารพาณิชย์ยังคงชะลอตัวตามภาวะเศรษฐกิจที่
ฟื้นตัวช้ากว่าคาด

ด้านนายศักดิ์ชัย พีชะพัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มทิสโก้ เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567ความเชื่อมั่นของผู้บริโภคชะลอตัวจากปัญหาหนี้ครัวเรือนและค่าครองชีพที่ทรงตัวในระดับสูงต่อเนื่อง ยอดขายรถยนต์ใหม่หดตัวลงอย่างรุนแรงจากกำลังซื้อที่ถดถอยรวมถึงคุณภาพหนี้สินที่มีแนวโน้มด้อยลง ท่ามกลางความท้าทาย  กลุ่มทิสโก้มีกำไรสุทธิ 3,482 ล้านบาท ลดลง 4.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า ขณะงวดไตรมาส 2/2567 มีกำไรสุทธิ 1,749 ล้านบาท ลดลง 5.7% จากไตรมาส 2 ของปีก่อนหน้า สาเหตุหลักจากการตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่เพิ่มขึ้น เพื่อรองรับความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและแรงกดดันด้านคุณภาพสินทรัพย์ ขณะที่ต้นทุนทางการเงินสูงขึ้นตามภาวะดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ยังได้แรงหนุนจากการเติบโตของสินเชื่อธุรกิจและสินเชื่อจำนำทะเบียนผ่านการขยายสาขาสมหวัง เงินสั่งได้ ส่วนรายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจากกำไรจากเงินลงทุน ขณะที่ค่าธรรมเนียมจากธุรกิจหลักชะลอตัวลงตามภาวะตลาดทุนที่ผันผวน และธุรกิจนายหน้าประกันภัยที่ซบเซา

ในระยะข้างหน้า กลุ่มทิสโก้ ยังคงมุ่งดำเนินธุรกิจภายใต้ยุทธศาสตร์ “Sustainable Focus” การขับเคลื่อนองค์กรสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับการเติบโตอย่างมีคุณภาพบนพื้นฐานการบริหารจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสม พร้อมเพิ่มความระมัดระวังรอบคอบในการดำเนินธุรกิจ ขณะเดียวกันจะเดินหน้าเติมเต็มโอกาสทางการเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งและมั่นคงให้แก่ลูกค้า ควบคู่กับการติดตามดูแลลูกค้าในกลุ่มเปราะบางอย่างใกล้ชิด

ณ วันที่ 30 มิ.ย. 2567 กลุ่มทิสโก้ให้สินเชื่อจำนวน 233,448 ล้านบาท ลดลง 0.6% จากสิ้นปี 2566 สาเหตุหลักมาจากการชะลอตัวของสินเชื่อเช่าซื้อ สอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ในประเทศที่หดตัวลง ในขณะที่สินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อ SME และสินเชื่อจำนำทะเบียนยังคงขยายตัว แต่เติบโตในอัตราที่ช้าลง  บริษัทเพิ่มความระมัดระวังและรอบคอบในการปล่อยสินเชื่อใหม่ท่ามกลางสภาวะหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง

ด้านสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPLs) ณ สิ้นไตรมาสนี้ อยู่ที่ 2.4% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้นจากสิ้นปีก่อนหน้า เป็นผลมาจากการขยายสินเชื่อไปในกลุ่มที่มีอัตราผลตอบแทนสูง และผลกระทบจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวช้า โดยบริษัทมุ่งเน้นการติดตามทวงถามหนี้อย่างใกล้ชิด รวมถึงดำเนินนโยบายการบริหารความเสี่ยงและตั้งสำรองอย่างรัดกุม และมีระดับค่าเผื่อสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Coverage Ratio) อยู่ที่ 162.7%

ธนาคารทิสโก้ยังคงรักษาระดับฐานะเงินกองทุนที่แข็งแกร่ง อัตราเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS Ratio) อยู่ที่ 20.6% สูงกว่าอัตราเงินกองทุนขั้นต่ำ 11.0% ที่กำหนดโดยธนาคารแห่งประเทศไทย และมีอัตราเงินกองทุนชั้นที่ 1 และชั้นที่ 2 ต่อสินทรัพย์เสี่ยงอยู่ที่ 18.6% และ 2.0% ตามลำดับ

บล.กรุงศรีมีมุมมองบวกต่อกำไรสุทธิไตรมาส 2/2567 ของทิสโก้ดีกว่าคาด เพราะเงินลงทุน (FVTPL) มากกว่าคาด แต่ตามตลาดคาด กำไรลดลง -6% จากค่าใช้จ่ายสำรองเพิ่มขึ้น คุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอ

ขณะที่กำไรเพิ่มขึ้น +1%จากไตรมาสแรก เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ธรรมเนียม สำหรับสินเชื่อรวมลดลง -0.8%  คิดเป็น -0.6% เทียบช่วงเดียวกันปีก่อน จากสินเชื่อรายย่อย ด้านคุณภาพสินทรัพย์อ่อนแอลงมาก โดยเฉพาะสินเชื่อรายย่อย NPL Ratio อยู่ที่ 2.44% เพิ่มจาก 2.27% ในไตรมาสแรกเ คงมอง TISCO มีปันผลเด่น คาดอัตราผลตอบแทนที่ 7-8% ต่อปี  คาดครึ่งปีนี้จ่าย 2 บาท/หุ้น ( ผลตอบแทน 2%)