HoonSmart.com>>ตลาดหุ้นเช้านี้ลบ 3.58 จุด แกว่งตัวหลังขาดปัจจัยใหม่ วอลุ่มเทรดบางก่อนหยุดช่วงสงกรานต์-หลายตลาดปิดทำการในสัปดาห์นี้ คาดนักลงทุนชะลอลงทุน-รอดูตัวเลขเงินเฟ้อ CPI เดือนมี.ค.ของสหรัฐในวันที่ 12 เม.ย.นี้
ดัชนีตลาดหลักทรัพย์วันที่ 10 เม.ย.2566 ณ เวลา 10.03 น.อยู่ที่ระดับ 1,573.49 จุด ลดลง 3.58 จุด หรือ -0.23% มูลค่าซื้อขาย 1,791.34 ล้านบาท
บล.กรุงศรี มอง SET แกว่งตัว 1,570 – 1,590 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่ ประกอบกับคาดว่านักลงทุนจะชะลอการซื้อขายเพื่อติดตามตัวเลขเงินเฟ้อเดือนมี.ค. CPI สหรัฐในวันที่ 12 เม.ย. รวมถึงรายงานการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เดือนมี.ค.เพื่อจับสัญญาณแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในช่วงถัดไป นอกจากนี้ Fund flow ต่างชาติที่ผันผวนจะกดดันภาวะตลาด จึงแนะนำ Selective buy เช่นเดิม
บล.ฟินันเซีย ไซรัส มอง SET Index แกว่งไซด์เวย์ในกรอบ 1,570-1,585 จุด โดยยังคาดมูลค่าการซื้อจะยังไม่หนาแน่น เนื่องจากตลาดหุ้นไทยรวมถึงหลายประเทศในสัปดาห์นี้ยังอยู่ในช่วงคาบเกี่ยววันหยุด ส่วนตัวเลขการจ้างงานสหรัฐฯออกมาชะลอตัวลงใกล้เคียง แต่ค่าจ้างแรงงานยังขยับขึ้นและยังไม่มีแนวโน้มกดให้เงินเฟ้อลงสู่กรอบเป้าหมาย 2% ในเร็วๆนี้ ทำให้ตลาดยังคาดการประชุมเฟดเดือน พ.ค. จะมีการขยับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% สู่ระดับ 5-5.25% ด้วยความน่าจะเป็นราว 60-70% และคาดว่าจะเป็นจุดสูงสุดของรอบ เม็ดเงินไหลออกจากพันธบัตรและทองคำเล็กน้อย ทำให้ Bond Yield ขยับขึ้นและราคาทองคำอ่อนตัว
อย่างไรก็ตามปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์นี้คือตัวเลขเงินเฟ้อ CPI เดือน มี.ค. ของสหรัฐฯคืนวันที่ 12 เม.ย. หากออกมาต่ำกว่าคาดจะทำให้บรรยากาศการลงทุนผ่อนคลายมากขึ้น ส่วนโฟกัสหลักในประเทศยังคงเป็นการหาเสียงเลือกตั้งที่จะคึกคักในเดือน เม.ย.-พ.ค. ซึ่งจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในระยะสั้น กลุ่มโรงพยาบาลเป็น Defensive Play ที่น่าสนใจและมี Catalyst หากสปส.ปรับเพิ่มค่าหัวในเดือนนี้ ด้านกลยุทธ์หากดัชนีพักตัวลงหาระดับ 1,550 จุดหรือต่ำกว่ายังเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นพื้นฐาน เรายังคงเน้นหุ้น Domestic/Reopening Play ระยะสั้นเน้นเลือกเก็งกำไรหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว
5 อันดับหุ้นที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุด ได้แก่
SCB อยู่ที่ 104.50 บาท เพิ่มขึ้น 1.00 บาท หรือ +0.97% มูลค่าซื้อขาย 272.63 ล้านบาท
EA อยู่ที่ 74.75 บาท ลดลง 0.75 บาท หรือ -0.99% มูลค่าซื้อขาย 126.34 ล้านบาท
GUNKUL อยู่ที่ 3.96 บาท ลดลง 0.08 บาท หรือ -1.98% มูลค่าซื้อขาย 96.72 ล้านบาท
BANPU อยู่ที่ 10.30 บาท ลดลง 0.60 บาท หรือ -5.50% มูลค่าซื้อขาย 88.70 ล้านบาท
KBANK อยู่ที่ 132.00 บาท เพิ่มขึ้น 2.00 บาท หรือ +1.54% มูลค่าซื้อขาย 81.56 ล้านบาท