HoonSmart.com>>”สยามแม็คโคร” เปิดผลงานไตรมาส 3/65 กำไร 1,602 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.9% รายได้ 1.15 แสนล้านบาท หนุน 9 เดือนกำไรโต 14% รับกำลังซื้อฟื้นตัวหลังโควิด ภาคท่องเที่ยวกลับมาคึกคัก สะท้อนผลสำเร็จเดินหน้าขยายธุรกิจ “แม็คโคร-โลตัส” ทั้งในไทยและต่างประเทศ ช่องทางออนไลน์เติบโตอย่างมีนัยยะสำคัญ
บริษัท สยามแม็คโคร (MAKRO) เปิดเผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2565 กำไรสุทธิ 1,602.19 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.15 บาท เพิ่มขึ้น 1.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1,571.85 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.33 บาท ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2565 กำไรสุทธิ 5,225.47 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.49 บาท เพิ่มขึ้น 13.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 4,592.71 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.96 บาท
นางเสาวลักษณ์ ถิฐาพันธ์ ประธานคณะผู้บริหาร กลุ่มธุรกิจค้าส่งแม็คโคร (MAKRO) เปิดเผย ผลประกอบการไตรมาสที่ 3 ปี 2565 ของบริษัทฯ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยธุรกิจค้าส่งแม็คโคร มียอดขายที่เพิ่มขึ้นจากสาขาเดิมทั้งในประเทศและต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็น กัมพูชา เมียนมา อินเดีย การขยายสาขาใหม่ระหว่างปี และการขายผ่านช่องทางออนไลน์
นอกจากนี้ธุรกิจฟูดเซอร์วิสยังมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจจัดเลี้ยง ขณะที่กลุ่มค้าปลีกโลตัส เติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกช่องทางการจำหน่าย โดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ของ โลตัส ประเทศไทย ที่เติบโตเพิ่มขึ้นถึง 60% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน รวมถึงรายได้จากพื้นที่เช่าและการให้บริการศูนย์การค้า ส่งผลให้บริษัทฯ มีรายได้รวมในไตรมาส 3/2565 อยู่ที่ 115,559 ล้านบาท เติบโตขึ้นถึง 110.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งหากรวมผลประกอบการตลอด 9 เดือนที่ผ่านมาของปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวมทั้งสิ้น 345,444 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 108.1% ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 5,225 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.8% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
“กลยุทธ์นับจากนี้ บริษัทฯ ยังคงเน้นย้ำการเป็นผู้นำการจำหน่ายอาหารสด อีกทั้งยังวางแผนการขยายสาขาในประเทศและต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดได้เปิดสาขาใหม่ในจังหวัดอุตรดิตถ์ อินเดีย และจีน นอกจากนั้นยังเน้นการพัฒนาและสร้างยอดขายผ่านช่องทาง O2O มุ่งสู่การเป็นผู้นำ Omni-Channel คาดว่าในช่วงไตรมาส 4 นี้ ธุรกิจจะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น ผนวกกับปัจจัยบวกของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว รวมถึงลงทุนพัฒนาระบบออนไลน์เพื่อสนองตอบความต้องการของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อขับเคลื่อนให้เกิดการเติบโต พร้อมส่งเสริม SME และเกษตรกรรายย่อย ด้วยแพลตฟอร์มแห่งโอกาส” นาง เสาวลักษณ์ กล่าว