HoonSmart.com>> กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ สนับสนุนการก่อสร้าง “ศูนย์ไตเทียม” รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ จำนวน 55 ล้านบาท มีเครื่องฟอกไตประสิทธิภาพสูง จำนวน 30 เครื่อง เพื่อผู้ป่วยยากไร้ที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังได้เข้าถึงการรักษาที่ทั่วถึงโดยมุ่งเป็น Center of Excellence ที่รองรับผู้ป่วยโรคไตและผู้ป่วยบำบัดทดแทนไตอย่างครบวงจร สอดคล้องที่ GULF มุ่งส่งเสริมด้านสาธารณสุข ควบคู่ไปกับกับพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน
บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาผู้ป่วยโรคไตที่จําเป็นต้องได้รับการฟอกไตเพิ่มมากขึ้นทุกปี การได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่เท่าเทียมและได้มาตรฐานโดยปัจจุบันหน่วยฟอกไตของรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มีความจําเป็นต้องเพิ่มรอบการให้บริการการฟอกไต ถือเป็นโรงพยาบาลที่สามารถให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางได้อย่างครบวงจรแห่งเดียว ทำให้คนในพื้นที่ในจังหวัดใกล้เคียงไม่จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาฟอกไตในกรุงเทพฯ รวมถึงเป็นรพ.ที่รับส่งต่อผู้ป่วยที่ยากไร้ ที่เกินศักยภาพการรักษาพยาบาลจากโรงพยาบาลต่างๆ ทําให้ในปัจจุบันมีผู้ป่วยเข้ามาใช้บริการเป็นจํานวนมาก มีการขยายตัวอย่างรวดเร็วมากขึ้นทุกปีอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถานที่และอุปกรณ์ทางการแพทย์ไม่เพียงพอต่อการให้บริการ
ทางบริษัทได้ตระหนักปัญหานี้ดี จึงมอบเงินจำนวน 55 ล้านบาทแก่รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อสนับสนุนการก่อสร้าง “ศูนย์ไตเทียม” ที่มีเครื่องฟอกไตประสิทธิภาพสูง (On-line Hemodiafiltration) จำนวน 30 เครื่อง เพื่อให้ผู้ป่วยยากไร้ที่เป็นโรคไตวายเรื้อรังได้เข้าถึงการรักษาที่ทั่วถึงและได้มาตรฐาน โดยมุ่งเป็น Center of Excellence ที่รองรับผู้ป่วยโรคไตและผู้ป่วยบำบัดทดแทนไตอย่างครบวงจร ทั้งการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแบบเฉียบพลัน (Acute Hemodialysis) และแบบเรื้อรัง (Chronic Hemodialysis) การล้างไตผ่านทางช่องท้อง การผ่าตัดปลูกถ่ายไต และการให้บริการทำ Plasmapheresis เป็นต้น นอกจากนี้ศูนย์ฯ จะต่อยอดเป็นสถานที่การเรียนการสอนของนักศึกษาแพทย์ นักศึกษาพยาบาล และแพทย์ประจำบ้านด้านอายุรศาสตร์โรคไต สอดคล้องกับพันธกิจของ GULF ที่มุ่งส่งเสริมด้านสาธารณสุข ควบคู่ไปกับกับพัฒนาคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน
นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ กล่าวว่า “ตั้งแต่สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่แพร่ระบาดมากว่า 2 ปี ทาง GULF ก็ได้มีการดำเนินโครงการด้านสาธารณสุขมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการมอบงบสนับสนุนการจัดซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับโรงพยาบาลต่าง ๆ หรือจัดทำข้าวกล่องให้คนในชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ดังนั้นการได้มีส่วนร่วมในการสร้างศูนย์ไตเทียมครั้งนี้ ทาง GULF หวังว่าศูนย์ไตเทียมแห่งใหม่จะช่วยส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยโรคไต และเป็นศูนย์การแพทย์ที่เป็นประโยชน์ต่อทางโรงพยาบาลในระยะยาวต่อไป”
ศ.ดร.สุรพล นิติไกรพจน์ ประธานคณะกรรมการบริหารรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวว่า “ปัจจุบันศูนย์ไตเทียมมีผู้ป่วยเข้ารับการบริการเป็นจํานวนมากและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมถึงมีผู้ป่วยที่เป็นโรคที่ไตรุนแรงและซับซ้อนเพิ่มสูงขึ้น แต่ด้วยปัญหาข้อจํากัดในเรื่องพื้นที่และอุปกรณ์ ทําให้ปัจจุบันหน่วยฟอกไตโรงพยาบาลจําเป็นต้องเพิ่มรอบการให้บริการเป็น 3 รอบต่อวัน ก็ยังไม่สามารถให้บริการผู้ป่วยได้ทั้งหมด และยังมีผู้ป่วยตกค้าง รพ.ธรรมศาสตร์ฯ จึงมีนโยบายเปิดศูนย์ไตเทียมอัจฉริยะแบบประสิทธิภาพสูง จํานวน 30 ยูนิตขึ้น เพื่อเป็นการขยายศักยภาพในการช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไต และได้ช่วยเหลือผู้ป่วยโรคไตในระยะยาว ต้องขอขอบคุณกลุ่มบริษัทที่เห็นความสำคัญของการสร้างศูนย์ไตเทียมอัจฉริยะแห่งนี้”
“ศูนย์ไตเทียมอัจฉริยะแบบประสิทธิภาพสูงจะเป็นศูนย์เพื่อให้บริการฟอกไตแก่ผู้ป่วยยากไร้ที่ได้รับความทุกข์จากโรคไตวายแบบเรื้อรัง เพื่อให้ผู้ป่วยกลุ่มดังกล่าวได้เข้าถึงการรักษาพยาบาลที่ดีและได้มาตรฐาน เป็นหน่วยงานที่จะให้บริการผู้ป่วยโรคไตโดยเฉพาะ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทางดูแลผู้ป่วยตั้งแต่ OPD (ผู้ป่วยนอก) จนถึง OR (ห้องผ่าตัด) และ หอผู้ป่วย มุ่งให้การดูแลผู้ป่วยอย่างเป็นระบบ มุ่งให้บริการแบบครบวงจร One stop service ที่ผู้ป่วยจะได้รับการเจาะเลือด การตรวจ การรับยา และทำหัตถการต่าง ๆ ในเวลาที่รวดเร็วขึ้นและสะดวกสบายมากขึ้น” รศ.นพ.พฤหัส ต่ออุดม ผู้อำนวยการรพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ กล่าวเสริม
“ศูนย์ไตเทียม” ตั้งอยู่ชั้น 4 ในอาคารห้องปฏิบัติการและรังสีวินิจฉัย รพ.ธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ มีพื้นที่ใช้สอยรวม 900 ตารางเมตร โดยเครื่องฟอกไตทั้ง 30 ตัว เป็นเครื่องฟอกไตที่ใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ (Smart IT System) ในการประเมินวิธี ลักษณะการฟอกไต และปริมาณสารน้ำที่ต้องใช้ในผู้ป่วยแต่ละรายโดยการคำนวณผ่านน้ำหนัก ผลเจาะเลือด รวมถึงสัญญาณชีพของผู้ป่วยในขณะฟอกไต เป็นต้น ทำให้ผู้ป่วยแต่ละรายได้รับการฟอกไตที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และเหมาะสมตามอาการ นอกจากนี้เครื่องฟอกไตดังกล่าวจะอาศัยกระบวนกำจัดของเสีย 2 กระบวนการรวมกัน คือ กระบวนการแพร่ และกระบวนการพา โดยได้รับความนิยมในประเทศแถบยุโรป เพราะสามารถขจัดของเสียโมเลกุลขนาดใหญ่ในร่างกาย ซึ่งการฟอกไตแบบเดิมไม่สามารถทำได้ ลดการติดเชื้อ ผลข้างเคียง อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อน รวมถึงการเสียชีวิต โดยรวมคือจะทำให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น และมีชีวิตที่ยืนยาวมากกว่าการฟอกเลือดปกติในระยะยาว โดยในขณะนี้ศูนย์ไตเทียมอยู่ระหว่างการดำเนินการก่อสร้าง และคาดว่าจะแล้วเสร็จ พร้อมเปิดให้บริการภายในปีพ.ศ. 2566