HoonSmart.com>> “ธนาคารทหารไทยธนชาต” เปิดกำไรสุทธิ 2,358 ล้านบาท ไตรมาส 3/64 เติบโต 45.7% จากปีก่อน ลดลงเพียง 6.9% จากไตรมาสที่ 2 “ธนาคารกรุงไทย” ฟาดกำไร 5,055 ล้านบาท พุ่งขึ้น 65.4% จากปีก่อน ลดลง 25.34% จากไตรมาสที่ 2 บล.หยวนต้ามองบวก TTB เป็นแบงก์แห่งที่ 3 ที่เปิดผลงาน ตั้งสำรองไม่มากอย่างที่กลัว หวังธนาคารที่เหลือจะออกมาตามคาดหรือดีเกินคาด แนะนำทยอยสะสม ด้านดัชนีบวก 7.16 จุด ต่างชาติซื้อหนัก 4,580.87 ล้านบาท สถาบันไทยขายปรับพอร์ตต่อ 1,923.87 ล้านบาท
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) วิเคราะห์ ธนาคารทหารไทยธนชาต (TTB) เป็นธนาคารแห่งที่ 3 ที่รายงานผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 3/2564 สอดคล้องกับธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) และ บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) ที่มีการตั้งสำรองลดลงเทียบกับไตรมาสที่ 2 โดยประเมินว่าธนาคารที่เหลือมีโอกาสที่จะรายงานผลประกอบการใกล้เคียงกับคาดการณ์หรือดีกว่าคาด แนะนำ “ทยอยสะสม”
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองบวกผลงานไตรมาสที่ 4 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่งจะมีโอกาสปรับตัวดีขึ้นตามภาวะเศรษฐกิจ และบางธนาคารยังมีกำไรพิเศษจากเงินลงทุน เช่น ธนาคารกรุงเทพ (BBL) และล่าสุด ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เข้าซื้อหุ้นบริษัท เฮงลิสซิ่ง แอนด์ แคปปิตอล (HENG) จำนวน 381 ล้านหุ้น หรือ 10% ในราคา 1.95 บาท/หุ้น เท่ากับ IPO ต่ำกว่าตลาดปิดที่ 2.80 บาท วันที่ 20 ต.ค. 2564
ด้านธนาคารทหารไทยธนชาต เปิดกำไรไตรมาส 3/64 จำนวน 2,358 ล้านบาท เติบโต 45.7% จากงวดปีก่อน และลดลง 6.9% จากไตรมาสที่ 2/2564 โดยรวม 9 เดือนกำไรสุทธิ 7,675 ล้านบาท ลดลง 13.5% จากงวดปีก่อน สินเชื่อลด 2.4% จากสิ้นปีก่อน
ในไตรมาส 3/2564 ธนาคารตั้งสำรองฯ จำนวน 5,527 ล้านบาท โดยยังคงตั้งสำรองในระดับสูง ในขณะที่รักษาระดับเงินกองทุนที่เพียงพอสำหรับสถานการณ์ที่ไม่แน่นอนในอนาคตและบรรเทาผลกระทบจากมาตรการช่วยเหลือสิ้นสุดลง ขณะที่สินเชื่อขั้นที่ 3 จำนวน 44,411 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพที่ 2.98% ยังคงปรับพอร์ตสินเชื่ออย่างต่อเนื่องและตัดหนี้สูญของสินเชื่อด้อยคุณภาพเพื่อลดความเสี่ยงเชิงลบที่อาจจะเกิดขึ้นหลังหักสำรองฯ และภาษี
ธนาคารกรุงไทย (KTB) เปิดผลประกอบการงวดไตรมาสที่ 3/2564 มีกำไรสุทธิ 5,054.98 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,997.85 ล้านบาท พุ่งขึ้น 65.35% เทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 3,057.14 ล้านบาท และลดลง 956.06 ล้านบาท คิดเป็น 15.91% เทียบกับไตรมาสที่ 2 รวม 9 เดือนปีนี้กำไรสุทธิ 16,644.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,365.29 ล้านบาท คิดเป็น 25.34%
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า จากภาวะเศรษฐกิจที่ยังเผชิญความท้าทาย จึงใช้หลักความระมัดระวังในการดำเนินธุรกิจ โดยพิจารณาตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected credit loss) ในระดับสูง บริหารจัดการคุณภาพสินทรัพย์อย่างใกล้ชิดและให้ความสำคัญกับการดูแลช่วยเหลือลูกค้าทุกกลุ่ม
” ในช่วง 9 เดือนของปี 2564 ธนาคารตั้งสำรองผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น จำนวน 24,291 ล้านบาท แม้ว่าลดลง 31.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่ยังเป็นการตั้งสำรองในระดับสูง ส่งผลให้ Coverage ratio เท่ากับ 163.9% เพิ่มขึ้นจาก 147.3% ณ สิ้นปี 2563 และ NPLs Ratio-Gross อยู่ที่ 3.57% ลดลงจาก 3.81% ณ สิ้นปีที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ในระดับที่ควบคุมได้ดี”นายผยงกล่าว
ด้านนายกอบสิทธิ์ ศิลปชัย ผู้บริหารงานวิจัยเศรษฐกิจและตลาดทุน ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) กล่าวว่า เศรษฐกิจไทยไตรมาส 3 น่าจะหดตัว 4.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส2 และหดตัว 3.5% เมื่อเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อน ส่วนไตรมาส 4 น่าจะหดตัว 2.5% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่ขยายตัว 2.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ส่งผลให้ธนาคารกสิกรไทยยังคงเป้าหมายเศรษฐกิจไทยปี 64 หดตัว 0.5% เป็นผลมาจากการระบาดของโควิดที่ยืดเยื้อ รุนแรง แม้รัฐบาลจะประกาศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวในวันที่ 1 พ.ย. 64 แต่การท่องเที่ยวจะได้รับประโยชน์ที่ชัดเจนในปี 2565
สำหรับทิศทางค่าเงินบาท คาดว่าจะเคลื่อนไหวในกรอบ 32.75-34.00 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ เงินบาทที่อัตรา 34 บาทนับเป็นการอ่อนค่าในรอบกว่า 4 ปี หรือตั้งแต่เดือน ก.ค. 2560 โดยสิ้นปีนี้เงินบาทน่าจะปรับตัวแข็งค่าขึ้นมาอยู่ที่ 32.75 บาทต่อดอลลาร์
ตลาดหุ้นวันที่ 20 ต.ค. พลิกกลับมาปิดที่ระดับ 1,637.55 จุด เพิ่มขึ้น 7.16 จุด หรือ +0.44% มูลค่าการซื้อขาย 67,918.45 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 4,580.87 ล้านบาท ด้านสถาบันไทยขายสุทธิ 1,923.87 ล้านบาท บัญชีบริษัทหลักทรัพย์ขายสุทธิ 738.17 ล้านบาทและนักลงทุนไทยขาย 1,918.83 ล้านบาท
หุ้นบวกได้เกิดจากแรงซื้อหุ้นกลุ่มธนาคารนำโดย KBANK, SCB, BBL และ TTB ปรับตัวขึ้น 2.70% ปิดที่ 1.14 บาทรับกำไรไตรมาสที่ 3 นอกจากนี้ยังมีแรงซื้อกลับหุ้นอิเล็กทรอนิกส์
บริษัทหลักทรัพย์ทิสโก้เปิดเผยว่า ดัชนีกลับมาปรับตัวขึ้นอีกครั้ง จากแรงซื้อกลับหลังราคาหุ้นหลายตัวปรับตัวลงแรงวานนี้ โดยเฉพาะในกลุ่มธนาคารที่มีการเก็งกำไรในงบการเงินช่วยหนุน ขณะเดียวกันเริ่มมีการเก็งกำไรในหุ้นซึ่งได้รับประโยชน์จากโควิด-19 ดีขึ้นและเงินบาทอ่อนค่าลง จากคาดงบ Q3 จะออกมาดี