HoonSmart.com>> “ซีแพนเนล” เตรียมขายไอพีโอ 39.5 ล้านหุ้น ระดมทุนขยายโรงงานแห่งที่ 2 เพิ่มกำลังการผลิตขึ้นอีกเท่าตัว จาก 7.2 แสนตารางเมตรต่อปี คืนเงินกู้ยืมสถาบันเงิน D/E ต่ำกว่า 0.5 เท่า มั่นใจธุรกิจโตต่อ ผู้พัฒนาอสังหาฯหันมาใช้ผลิตภัณฑ์ Precast Concrete มากขึ้น โชว์ยอด Backlog 1.15 พันล้านบาท รับรู้ปี 2564 จำนวน 228 ล้านบาท ที่เหลือทยอยรับรู้ในปี 2565-2566
นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนของบริษัท ซีแพนเนล (CPANEL) เปิดเผยว่า CPANEL เตรียมเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนให้กับประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 39.5 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท คิดเป็นสัดส่วน 26.33% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งได้รับการอนุมัติจากก.ล.ต.เรียบร้อยแล้ว โดยคาดจะเปิดให้นักลงทุนจองซื้อในช่วงสัปดาห์ที่ 3-4 ของเดือน ก.ย.นี้ และคาดว่าจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ได้ไม่เกินสิ้นเดือน ก.ย.2564
ด้านนายชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซีแพนเนล (CPANEL) เปิดเผยถึงวัตถุประสงค์การระดมทุนในครั้งนี้ว่า บริษัทจะนำเงินไม่เกิน 500 ล้านบาท ไปลงทุนก่อสร้างโรงงานแห่งที่ 2 เพื่อขยายกำลังการผลิตขึ้นอีก 720,000 ตารางเมตรต่อปี หรือเพิ่มขึ้น 1 เท่าตัวของกำลังการผลิตเดิมที่ 720,000 ตารางเมตรต่อปี ซึ่งจะสามารถรองรับความต้องการในอนาคตได้ค่อนข้างมากคาดว่าจะเริ่มผลิตได้ในช่วงไตรมาส 1/2567 พร้อมจะนำไปชำระคืนเงินกู้สถาบัน หลังจาก IPO แล้วเสร็จ อัตราหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) จะอยู่ต่ำกว่า 0.5 เท่า จากปัจจุบันประมาณ 2.5 เท่า และใช้เพื่อเป็นเงินทุนหมุนเวียน
สำหรับบริษัทฯเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Precast) และมีระบบที่ไม่ใช่อัตโนมัติ (Manual Precast) เพื่อใช้ผลิตตามความต้องการของลูกค้า แนวโน้มอุตสาหกรรมนี้ เริ่มเข้ามาแทนที่การก่อสร้างในรูปแบบเดิม เนื่องจาก Precast Concrete เป็นวัสดุที่ช่วยแก้ปัญหางานก่อสร้าง ลดความเสี่ยงในการทำธุรกิจ แม้ขณะนี้จะยังมีสัดส่วนการใช้งานไม่มากนัก แต่จากความรวดเร็วและลดขั้นตอนการก่อสร้าง รวมถึงลดจำนวนแรงงาน ส่งผลให้ต้นทุนรวมของโครงการที่ใช้ Precast Concrete ลดลงโดยเฉลี่ย 15% และต้นทุนแรงงานลดลงประมาณ 50% ทำให้ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์และผู้รับเหมาก่อสร้างนิยมหันมาเลือกใช้ Precast Concrete มากขึ้น โดยในปัจจุบันบริษัทมีการใช้อัตรากำลังการผลิตอยู่ที่ 70% ของกำลังการผลิตรวม
ขณะที่มูลค่างานตามสัญญาสัญญาที่ยังไม่ได้ส่งมอบ ณ สิ้นเดือน มิ.ย.2564 มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) อยู่ที่ 1,156.03 ล้านบาท ซึ่งในช่วงครึ่งปีหลังจะรับรู้ประมาณ 228.56 ล้านบาท และในปี 2565 คาดว่าจะรับรู้อยู่ที่ 525.60 ล้านบาท ส่วนอีก 401.87 ล้านบาท จะรับรู้ภายในปี 2566
ส่วนผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564 ที่ผ่านมา บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 157.28 ล้านบาท ดีขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่มีรายได้อยู่ที่ 99.86 ล้านบาท โดยมีอัตรากำไรขั้นต้นในระดับที่สูง ปัจจุบันอยู่ที่ 37.34% เนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 16.78 ล้านบาท เพิ่มขึ้นค่อนข้างมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 1.34 ล้านบาทได้รับผลกระทบโควิด-19 ส่วนอัตรากำไรสุทธิในปัจจุบันที่อยู่ที่ 11-13%
นายสมศักดิ์ ศิริชัยนฤมิตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ (APM) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า ผลของการโรดโชว์นำเสนอข้อมูลของบริษัท CPANEL ให้แก่นักลงทุน มีกระแสตอบรับที่ดี เนื่องจาก CPANEL เป็นธุรกิจที่มีความโดดเด่น เป็นหนึ่งในผู้นำตลาด Precast Concrete และบริษัทสามารถเติบโตได้แม้ในช่วงที่ภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว จากความสามารถในการบริหารต้นทุนการผลิตได้อย่างดี ในขณะที่สินค้ายังคงมีคุณภาพตามมาตรฐานระดับสากลที่กำหนดไว้ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บริษัทมีความได้เปรียบทางการแข่งขัน อีกทั้งบริษัทรักษาความสัมพันธ์อันดีกับผู้จำหน่ายวัตถุดิบ และลูกค้าที่เป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำมาเป็นเวลานาน ถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่บริษัทจะสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
“มั่นใจว่า CPANEL จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่เหมาะสม เนื่องจากเป็นบริษัทที่มีเทคโนโลยีด้านการก่อสร้าง และมีแนวโน้มเข้ามาทดแทนการก่อสร้างแบบเดิม จึงมีโอกาสเติบโตจากความต้องการที่ทยอยเพิ่มขึ้น อีกทั้งจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมามีความสามารถการทำกำไรที่ดี และมีการเติบโตอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งภายหลังการระดมทุนในครั้งนี้ บริษัทจะสามารถรักษาความเป็นผู้นำตลาด อีกทั้งมีโอกาสขยายธุรกิจได้อย่างมีศักยภาพตามเป้าหมายที่วางไว้” นายสมศักดิ์ กล่าว