HoonSmart.com>>BROOK ไตรมาส 2 รายได้รวม 144.14 ล้านบาท ขาดทุนสุทธิ 267.61 ล้านบาท จากผลขาดทุนมูลค่าสินค้าคงเหลือ บอร์ดไฟเขียวปันผล 0.015 บาท/หุ้น ส่วนครึ่งปีหลังหวังลงทุนสินทรัพย์ดิจิทัล ดันผลงานปี 64 โตก้าวกระโดด
นายวริศ บูลกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ฝ่ายสินทรัพย์ดิจิทัล บริษัท บรุ๊คเคอร์ กรุ๊ป (BROOK) ประกอบธุรกิจที่ปรึกษาด้านการลงทุนและอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลการดำเนินธุรกิจของบริษัทในไตรมาส 2 ปี 2564 มีรายได้รวม 144.14 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 379.37 ล้านบาท และขาดทุนสุทธิ 267.61 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 270.42 ล้านบาท ขณะที่รายได้งวด 6 เดือนอยู่ที่ 403.74 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 372.82% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีค่าใช้จ่ายงวด 6 เดือนแรกอยู่ที่ 458.65 ล้านบาท ทำให้ขาดทุนสุทธิ 85.64 ล้านบาท ทั้งนี้ส่วนใหญ่มาจากผลขาดทุนมูลค่าสินค้าคงเหลือ
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลในงวดผลการดำเนินงาน 6 เดือนแรกของปีในอัตราหุ้นละ 0.015 บาทต่อหุ้น โดยจะกำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิรับเงินปันผลระหว่างกาลในวันที่ 30 สิงหาคม2564 และจ่ายปันผลในวันที่ 15 กันยายน 2564
สำหรับปี 2564 นับเป็นปีที่บริษัทมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้างธุรกิจภายในองค์กร ด้วยการรุกธุรกิจการลงทุนใน Digital Asset ปัจจุบันได้ดำเนินการลงทุนตามนโยบายของคณะกรรมการบริษัทที่เห็นชอบและอนุมัติให้ลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล วงเงิน 1,200 ล้านบาท
“ในช่วงครึ่งปีหลังมองว่าเรื่อง Digital Asset ยังมีอีกหลายประเภทที่ต้องเร่งศึกษาเพื่อเข้าลงทุนและกระจายความเสี่ยงในอนาคต ขณะเดียวกันบริษัทฯมีแผนหาพันธมิตรเพื่อร่วมลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้เพื่อให้เกิดการสนับสนุนการลงทุนในธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับสินทรัพย์ดิจิทัล คาดว่าจะเกิดขึ้นภายในปีนี้” วริศ กล่าวเสริม
สำหรับภาพรวมในปี 2564 เชื่อมั่นว่าจะเป็นปีที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากการรุกลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล การหาพันธมิตรทางธุรกิจโดยได้บริษัทชั้นนำแนวหน้าของประเทศและในระดับสากลที่ทำธุรกิจเกี่ยวเนื่อง Digital Asset เข้ามาเสริมทัพความแข็งแกร่งในธุรกิจใหม่ของ BROOK เชื่อมโยงสู่ธุรกิจเดิมในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินที่สามารถขยับให้คำปรึกษาด้านการลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลเพิ่มเติม จึงมองว่าภาพรวมจะหนุนให้ปี 2564 เติบโตโดดเด่นกว่าปีที่ผ่านมา