HoonSmart.com>> “TMBAM Eastspring” แจงปิดกองทุน “ทหารไทยธนเพิ่มพูน-ทหารไทยธนไพบูลย์” เหตุ COVID-19 กระทบตลาดทุน ตราสารหนี้ทั่วโลกรุนแรง นักลงทุนแพนิค ขาย กระทบพอร์ตลงทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ กด NAV วูบ 50-70% มูลค่าสินทรัพย์ลดลงกว่า 7 หมื่นล้านบาท ในช่วง 16-25 มี.ค. ยันลงทุนสินทรัพย์คุณภาพดีไม่มีดีฟอลต์ เตรียมทยอยขายสินทรัพย์คืนเงินผู้ถือหน่วยลงทุน พร้อมยืนยันไม่กระทบกองทุนอื่นๆ กรณีผู้ลงทุนจำเป็นต้องใช้เงิน TMB เปิดให้นำหน่วยลงทุนเป็นหลักประกันกู้ยืมได้
นายสมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ทหารไทย (TMBAM Eastspring) แถลงข่าวกรณียกเลิกโครงการกองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน และกองทุนเปิดทหารไทย ธนไพบูลย์ ผ่านเฟสบุ๊คว่า สาเหตุที่ปิดกองทุนมีผลวันที่ 26 มี.ค.2563 เนื่องจากผลกระทบจากตลาดตราสารทุนและตราสารหนี้ทั่วโลกผันผวนรุนแรงจากสถานการณ์ COVID-19 ส่งผลให้ทั้ง 2 กองทุน ซึ่งส่วนใหญ่ลงทุนในตราสารหนี้ต่างประเทศอยู่ในระดับลงทุนได้ (Investment Grade) ถูกกระทบจากการตื่นตระหนกของผู้ถือหน่วยลงทุนเทขายออกเพื่อถือเงินสด
“เหตุการณ์ COVID-19 ไม่เคยเกิดขึ้น ทำให้สภาพคล่องหายจากตลาด ซึ่งเกิดขึ้นรุนแรงในต่างประเทศ เป็นที่มาของการตื่นตระหนกและขายอย่างรวดเร็วของผู้ลงทุน แม้ทั้งสองกองทุนมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ดี แต่เมื่อเกิดแพนิคเซล นักลงทุนกลุ่มหนึ่งเทขายออก ทำให้มีการเทขายออกมาในวงกว้างมากขึ้น ซึ่งช่วงวันที่ 16-25 มี.ค.ที่ผ่านมาขนาดกองทุน (NAV) ลดลงอย่างรวดเร็ว 50-70% ตามลำดับ”นายสมจินต์ กล่าว
ทั้งนี้ จากข้อมูลกองทุนเปิดทหารไทยธนเพิ่มพูน ณ วันที่ 25 มี.ค.2563 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) จำนวน 25,191.18 ล้านบาท มูลค่าต่อหน่วย 10.5538 บาท ลดลง 43,220.55 ล้านบาท หรือลดลง 63% จากวันที่ 16 มี.ค.2563 NAV อยู่ที่ 68,411.73 ล้านบาทและ NAV ต่อหน่วย 10.7220 บาท โดยพบว่าเริ่มลดลงจากวันที่ 13 มี.ค.2563 NAV อยู่ที่ 67,212.28 ล้านบาท NAV ต่อหน่วย 11.5980 บาท
ส่วนกองทุนเปิดทหารไทยธนไพบูลย์ ณ วันที่ 25 มี.ค.2563 มี NAV อยู่ที่ 38,234.35 ล้านบาท NAV ต่อหน่วย 11.2097 บาท ลดลง 28,977.91 ล้านบาท หรือ 43% จากวันที่ 16 มี.ค.2563 NAV อยู่ที่ 67,212.28 ล้านบาท NAV ต่อหน่วย 11.5980 บาท ซึ่งริ่มลดลงจากวันที่ 13 มี.ค.2563 มี NAV อยู่ที่ 73,039.25 ล้านบาท NAV ต่อหน่วย 10.7535 บาท
นายสมจินต์ กล่าวว่า สาเหตุที่ทั้งสองกองทุนได้รับผลกระทบมากกว่ากองทุนอื่นๆ เนื่องจากลงทุนส่วนใหญ่ในต่างประเทศจึงได้รับผลกระทบจากความผันผวนในต่างประเทศจึงเกิดการแพนิคเทขาย ขณะที่กองทุนในประเทศไทยไม่ได้มีความตื่นตระหนกผันผวนหนักเหมือนกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ขณะเดียวกันทางการพยายามเต็มที่เข้ามาดูแลตลาดตราสารหนี้ในประเทศทำให้ความผันผวนน้อย นอกจากนี้ทรัพย์สินที่ทั้งสองกองทุนลงทุนนั้นไม่ได้เข้าข่ายการดูแลจากมาตรการที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมา จึงอาจเพิ่มความตื่นตระหนกให้แก่นักลงทุน
“ยืนยันว่าตราสารหนี้ที่ลงทุนไม่มีการผิดนัดชำระหนี้ (ดีฟอลต์) แต่อย่างใด แต่เกิดจากการถูกเทขายอย่างตระหนกตกใจ กองทุนจึงจำเป็นต้องขายตราสารที่ถือครอง หากถือได้ตามที่วางแผนไว้นักลงทุนจะได้ผลตอบแทนที่ดี แต่ความจำเป็นนี้ทำให้ขาดทุนจากการขายในภาวะตลาดไม่ปกติ”นายสมจินต์ กล่าว
นอกจากนี้การยุติการซื้อ ขายและปิดกองทุนจะทำให้ผู้จัดการกองทุนค่อยๆ ขายทรัพย์สินออกมา เพื่อให้ได้ประโยชน์ต่อผู้ถือหน่วยลงทุนแทนที่จะเร่งขายหน่วยลงทุนออกยิ่งกดให้ราคาสินทรัพย์ต่ำลง เนื่องจากดีมานด์ซื้อตราสารหนี้น้อยลง และทำให้เกิดต้นทุนสูงขึ้นกว่าภาวะปกติ ซึ่งหากถือลงทุนได้นานขึ้นก็จะได้ผลตอบแทนที่ดีกว่า
สำหรับผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายการซื้อขายในวันที่ 25 มี.ค.2563 จะถูกยกเลิกรายการ จากการปิดกองทุน ส่วนผู้ที่ทำรายการก่อนวันที่ 25 มี.ค.2563 จะได้รับการดำเนินการตามที่สั่งไว้ ซึ่งหลังจากเลิกกองทุนจะเข้าสู่กระบวนการชำระราคาโดยใน 5 วันแรก นับจากวันที่เลิกกองทุนคือวันที่ 26 มี.ค.2563 ผู้จัดการกองทุนจะพยายามขายสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องเหมาะสมที่จะขาย เพื่อรับเงินก้อนแรกให้นักลงทุน 5 วันทำการ คือ ประมาณวันที่ 2 เม.ย.นี้ และหลังจากนั้นหากยังมีสินทรัพย์ที่ยังไม่เหมาะสมขายออกทันที ก็อาจต้องใช้เวลา ซึ่งเข้าสู่กระบวนการชำระราคานานขึ้น ทั่วไป 90 วัน ผู้จัดการกองทุนจะทำหน้าที่ดูแลตัดสินใจเพื่อให้เกิดการขายในลักษณะที่ไม่ทำร้ายกองทุนและหากมีความจำเป็นอื่นใดจะมีการหารือกับก.ล.ต.เพื่อยืดเวลาต่อไป โดยผู้ถือหน่วยจะไม่เสียค่าธรรมเนียมในการไถ่ถอนหน่วยลงทุน
ส่วนกองทุนอื่นๆ ในกลุ่มตระกูลธนของบลจ.ทหารไทย ไม่ได้มีการลงทุนในตราสารต่างประเทศ จึงเชื่อว่าจะสามารถยืนระยะไปได้อย่างดี ตราบใดผู้ถือหน่วยยังเชื่อมั่นในบลจ.ทหารไทยและมีมาตรการรองรับจากธปท.แล้ว
นายสมจินต์ กล่าวอีกว่า สำหรับนักลงทุนที่มีความจำเป็นต้องใช้เงิน ทางธนาคารทหารไทย (TMB) มีนโยบายดูแลลูกค้าของธนาคารและลูกค้ากองทุนที่ซื้อผ่านช่องทางอื่นๆ สามารถนำหน่วยลงทุนของกองทุนทหารไทยธนเพิ่มพูนและทหารไทยธนไพบูลย์ไปเป็นหลักประกันในการกู้ยืมเงินได้ เพื่อเยียวยาให้แก่ผู้ลงทุน
นาย Bernard Teo , Head of Corporate Strategy, Mergers & Acquisition ของ Eastspring Investments กล่าวว่า ผลจาก COVID-19 ที่กระทบตลาดทุน ตลาดตราสารทั่วโลกนั้นในต่างประเทศ ราคาค่อนข้างจะสะท้อนความตระหนกตกใจรวดเร็วทำให้เกิดความผันผวนมาก ขณะที่กองทุนอื่นๆ จะเน้นลงทุนในไทย จึงไม่ผันผวนเท่ากับกองทุนดังกล่าวและยืนยันว่ากองทุนอื่นๆ ของบลจ.ทหารไทย ยังคงมิได้ถูกกระทบจากกองทุนทั้งสองกองดังกล่าว
“การปิดกองลักษณะนี้แม้จะไม่ได้เป็นที่รู้จักในไทย แต่ในต่างประเทศ เช่น อังกฤษหรือยุโรป ผู้จัดการกองทุนจะทำหน้าที่ดูว่าอะไรที่ดีสุดสำหรับผู้ถือหน่วยลงทุน ซึ่งการเลิกกองทุนก็เป็นสิ่งปฏิบัติในต่างประเทศ” Bernard Teo กล่าว
อ่านข่าว
TMB เปิดให้นำหน่วยลงทุน “ธนเพิ่มพูน-ธนไพบูลย์” เป็นหลักประกันขอกู้เงิน
บลจ.ทหารไทยปิด 2 กองทุนธนไพบูลย์-ธนเพิ่มพูน คุ้มครองผลประโยชน์ผู้ถือหน่วย
นายกสมาคมบริษัทจัดการลงทุนยันปิด 2 กองทุน ไม่กระทบอุตฯ อย่างมีนัยสำคัญ
ก.ล.ต.เชื่อมั่นมาตรการธปท.-ก.ล.ต.ช่วยเสริมสภาพคล่องกองทุนตราสารหนี้