HoonSmart.com>>พรรคประชาธิปัตย์ติดปีกให้ Startup & SMEs นำ 4 นักธุรกิจชั้นนำด้านอาหาร แนะกลยุทธ์ในการเริ่มธุรกิจ ปรับตัวให้ทันการเปลี่ยนแปลง เอ็มเคฯเตือนปีนี้ตั้งรับมากกว่ารุก ขอเวลาจัดระบบ “แหลมเจริญ”ก่อนขยายสาขาคู่ MK -Yayoi เอสแอนด์พีต่อยอดแบรนด์ มองคู่แข่งเป็นคู่ค้า ส่วน มัดแมน เดินหน้าซื้อกิจการ เลือกแบรนด์ที่ใช่ นำเทคโนโลยีช่วย ฟูจิ เน้นลูกค้าเป็นที่ตั้ง สำหรับทางออกเฉพาะหน้าจากไวรัสโควิด-19 ส่งสินค้าถึงมือลูกค้า -บริหารต้นทุน
พรรคประชาธิปัตย์จัดงาน “ติดอาวุธให้ Startup & SMEs” โดยนายปริญญ์ พานิชภักดิ์ หัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า งานนี้จัดขึ้นมา เพื่อต้องการช่วยให้ผู้ประกอบการทั้งสตาร์ทอัพและเอสเอ็มอี ไปต่อได้อย่างแข็งแรงและแข่งขันได้ ช่วยติดอาวุธที่สำคัญและจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการระดมทุน การบัญชี กฎหมาย การตลาดยุคใหม่ เทคโนโลยีทันสมัย มาตรฐานสินค้าและบริการ รวมถึงการขยายตลาดไปต่างประเทศ
นายฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป (M) เปิดเผยว่า ในช่วงที่เศรษฐกิจยังเผชิญกับภาวะกดดันในหลายๆ ด้าน ทิศทางบริษัทในปีนี้ จะเป็นในเชิงของการตั้งรับ มากกว่าเชิงรุก ต้องความระมัดระวังตัวในการขยายธุรกิจ และเตรียมรับมือความผันผวนต่างๆที่ควบคุมไม่ได้ พร้อมกับการยังคงเดินหน้าและพัฒนาให้บริษัทเติบโตต่อไป
ส่วนกรณีที่บริษัทเข้าซื้อหุ้นของกิจการ แหลมเจริญ ซีฟู๊ด จะมีการปรับระบบการจัดการภายในธุรกิจแหลมเจริญ ซีฟู๊ด ทั้งหมด เพื่อต่อยอดในธุรกิจเดิมให้เดินหน้าต่อไปได้ รวมถึงการนำมาพัฒนาปรับใช้ในธุรกิจของบริษัทฯ คาดว่าจะใช้เวลาจัดการประมาณ 1 ปี ซึ่งในปี 2563 ได้เริ่มดำเนินการแล้ว หลังจากเสร็จแล้วมีโอกาสที่จะเปิดสาขาเพิ่ม ในสาขาที่ธุรกิจ MK และ Yayoi มีรายได้สูง ก็อาจจะนำธุรกิจแหลมเจริญ ซีฟู๊ด เข้าไปเปิดด้วย
ด้าน นายวิทูร ศิลาอ่อน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอส แอนด์ พี ซินดิเคท (SNP) กล่าวว่า ในยุคผู้บริโภคเริ่มมองหาความสะดวกสบายในการเข้าถึงสินค้าและบริการ บริษัทได้ปรับเปลี่ยนรูปแบบของธุรกิจเพื่อสนองความต้องการใหม่ๆ บริษัทต้องไม่หยุดอยู่กับที่ ต้องพัฒนาอยู่ตลอดเวลา เช่นจากเดิมบริษัทขายเพียงสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัท ปัจจุบันได้มีการขยายสินค้าในธุรกิจอื่นๆ ทั้งในซุปเปอร์มาร์เก็ต ในสายการบินต่างๆ ในการต่อยอดแบรนด์บริษัทมองคู่แข่งเป็นคู่ค้า การจับมือกับพันธมิตรทางการค้าก็เป็นส่วนสำคัญในการเดินหน้าธุรกิจเช่นกัน
นาย ศุภชัย สุขะนินท์ ผู้ก่อตั้ง บริษัท มัดแมน (MM) กล่าวว่า การปรับตัวของธุรกิจในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบัน มองว่าการเข้าซื้อกิจการเป็นสิ่งที่น่าสนใจ แต่การซื้อแล้วทำให้เกิดผลประโยชน์ ต้องคำนึงถึงแบรนด์ และมูลค่าของธุรกิจ แบรนด์เป็นสิ่งที่จะล้มเป็นไปได้ยาก แต่การพัฒนาแบรนด์ให้ดีขึ้นต่อไปเป็นสิ่งสำคัญ การพัฒนาควรนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มความสะดวกต่างๆของธุรกิจ และการเก็บข้อมูลของผู้บริโภคก็เป็นสิ่งที่ควรมี เพื่อทำให้ธุรกิจเติบโตขึ้น
นางรวิวัลย์ ทานาก้า ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ฟูจิ กรุ๊ป กล่าวว่า สมัยนี้ควรพัฒนารูปแบบธุรกิจให้สนองความต้องการของลูกค้า ปัจจุบันลูกค้าต้องการความสะดวกในการซื้อและการบริโภค จึงเป็นสิ่งสำคัญในการปรับเปลี่ยนรูปแบบใหม่ รวมถึงการเก็บบันทึกข้อมูลของลูกค้าเพื่อนำมาปรับเปลี่ยนในธุรกิจอีกด้วย
ซึ่งทั้ง 3 นายวิทูร นายศุภชัยและนางรวิวัลย์ มองเห็นตรงกันว่าปัญหาของไวรัสโควิด-19 เข้ามากระทบธุรกิจมากในช่วงที่ผ่านมา จึงได้มีกลยุทธ์ที่คล้ายๆกันในการขนส่งถึงที่ ไม่ต้องออกจากบ้าน จึงปรับตัวด้านการขนส่งให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อตอบสนองลูกค้า รวมถึงการบริหารจัดการต้นทุนให้มีประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน