HoonSmart.com>> “เดลต้า อีเลคโทรนิคส์” ปี 62 กำไรสุทธิ 2,959 ล้านบาท ลดลง 42% จากปีก่อน ยอดขายลด 3.6% เหลือ 51,172 ล้านบาท บาทแข็งฉุดกำไรค่าเงินลดลง 145 ล้านบาท บอร์ดอนุมัติปันผลอัตรา 1.80 บาทต่อหุ้น XD วันที่ 28 ก.พ.63 จ่ายเงิน 9 เม.ย.63
บริษัท เดลต้า อีเลคโทรนิคส์ (ประเทศไทย) หรือ DELTA เปิดเผยผลการดำเนินงานปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 มีกำไรสุทธิ 2,959.96 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 2.37 บาท ลดลง 42.38% จากงวดเดียวกันของปีก่อนกำไรสุทธิ 5,137.03 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 4.12 บาท
บริษัทมียอดขายรวม 51,172 ล้านบาท ลดลง 3.6% จากงวดปีก่อน เนื่องจากการลดลงของยอดขายในกลุ่มผลิตภัณฑ์เพาเวอร์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งยอดขายในกลุ่มเพาเวอร์ซัพพลายที่ใช้สำหรับรถยนต์ลดลง 23% จากปีก่อน โดยยอดขายในเอเชียยังครองอันดับหนึ่งอย่างต่อเนื่อง แม้สัดส่วนจะลดลงจาก 46% ในปี 2561 มาอยู่ที่ 36% ในปี 2562 รองลงมาอเมริกาเหนือเพิ่มขึ้นจาก 26% มาอยู่ที่ 34% ขณะที่ยุโรปมีสัดส่วน 27-28% เช่นเดียวกับปีก่อน
นอกจากนี้มีรายได้อื่นจำนวน 725 ล้านบาท ลดลง 145.5 ล้านบาทจากปีก่อน โดยมีกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนเหลือ 33 ล้านบาท ลดลง 143 ล้านบาท จากงวดปีก่อน เนื่องจากเงินบาทแข็งค่า อย่างไรก็ตามบริษัทไม่มีนโยบายจะเก็งกำไรอัตราแลกเปลี่ยน แต่มีนโยบายป้องกัยความเสี่ยงแบบคุ้มครองสถานะสุทธิของเงินแต่ละสกุลแบบเต็มจำนวน เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
ด้านต้นทุนขายเมื่อเทียบยอดขายคิดเป็น 79.5% เพิ่มขึ้นจาก 77.2% ในปีก่อน เนื่องจากส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ที่ต่างกัน (การชะลอคำสั่งซื้อของลูกค้าในกลุ่มเพาเวอร์ซัพพลายที่ใช้สำหรับรถยนต์และการเริ่มต้นผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์เน็ตเวอร์คสวิทซ์ ซึ่งยังไม่ถึงจุดคุ้มทุนในปี 2562) และการแข็งค่าของเงินบาท ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของค่าเสื่อมราคาจากการลงทุนในเครื่องจักรและอุปกรณ์
นอกจากนี้ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร รวมค่าวิจัยและพัฒนามีจำนวน 8,189.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10.9% จากงวดปีก่อน เนื่องจากการยกระดับทีมวิจัยและพัฒนาในเยอรมันเพื่อตอบสนองต่อการเติบโตของธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าในยุโรป ส่งผลให้กำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 10,474.5 ล้านบาท ลดลง 1,648.2 ล้านบาท หรือลดลง 13.60% จากปีก่อน และอัตรากำไรจากการดำเนินงานต่อยอดขายในปี 2562 ลดลงมาอยู่ที่ 4.5% เทียบกับ 8.9% ในปี 2561
คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติเมื่อวันที่ 17 ก.พ. 2563 อนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลดำเนินงานปี 2562 ในอัตรา 1.80 บาทต่อหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 1.00 บาทต่อหุ้น กำหนดรายชื่อผู้มีสิทธิได้รับปันผลวันที่ 2 มี.ค. 2563 ขึ้น XD วันที่ 28 ก.พ.2563 กำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 9 เม.ย. 2563
ด้านบริษัทหลักทรัพย์เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุว่า กำไรสุทธิของ DELTA ในไตรมาส 4/2562 ต่ำกว่าประมาณการของ KGI 31% และต่ำกว่า Bloomberg consensus 27% เนื่องจากยอดขายอ่อนแอ ส่งผลให้กำไรสุทธิปี 2562 อยู่ที่ 3.0 พันล้านบาท ลดลง 43% จากปีก่อน ซึ่งต่ำกว่าประมาณการปี 2562 ของ KGI ที่ 3.9 พันล้านบาท ถึง 23%
“ผลประกอบการปี 2562 ออกมาต่ำเกินคาด เราจึงมองว่าประมาณการกำไรปี 2563 ของเรายังมี downside อีก แต่อย่างไรก็ตาม upside จากการที่เงินบาทอ่อนค่าลงก็จะช่วยชดเชยผลกระทบไปได้บางส่วน โดยแนะนำ “ซื้อ” และให้ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2563 ที่ 57.00 บาท อิงจาก PER ที่ 17.0X (ค่าเฉลี่ยของกลุ่ม +0.75 S.D.) เราแนะนำให้นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์การระบาดของเชื้อ COVID-19 ซึ่งอาจจะทำให้ประมาณการยอดขายของเรามี downside อีกจากปัญหา supply chain สะดุด”บล.เคจีไอ ระบุ
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ปรับลดคำแนะนำลงเป็น “TRADING” หลังราคาหุ้นปรับขึ้นจน Upside ระยะสั้นจำกัด
อย่างไรก็ตามบล.ยวนต้ามีโอกาสปรับเพิ่มประมาณการกำไรปกติปี 2563 หากการเติบโตของรายได้ทำได้ดีกว่าคาดในระยะถัดไป และมีโอกาสปรับเพิ่ม Payout Ratio หากนโยบายการจ่ายออกของ DELTA Taiwan ยังสูงต่อเนื่อง ขณะที่ Downside Risk ของประมาณการอยู่ที่ค่าลิขสิทธิ์จ่ายที่มีแนวโน้มสูงกว่าคาด
สำหรับความเสี่ยงสำคัญ ได้แก่ 1) สงครามการค้ารุนแรงขึ้น 2) ค่าเงินบาท/USD แข็งค่ากว่า 30.00 และ3) นโยบายการบริหารของ DELTA Taiwan ที่อาจเปลี่ยนแปลงได้