บล.เอเซียเวลท์เปิดตัวเลขต่างชาติทิ้งไทยรวดเดียวกว่า 2 แสนล้านบาท ผ่านกำไรจากอนุพันธ์และหุ้น คาดยังขายไม่หมด รูปแบบคล้ายปี2557 แนะนำรายย่อยดักทางต่างชาติต่ออายุฟิวเจอร์สเดือนมิ.ย.ไประยะยาว ส่วนบล.กสิกรไทย ออปชั่นซื้อสัญญายาว ขายสั้น ตามแนวโน้มตลาดไม่ไหนไม่ไกลช่วงนี้
ตลาดสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(ประเทศไทย) หรือ TFEX จัดงาน TFEX Trader Day ” ค้นหาไอเดียเทรด สร้างกลยุทธ์ทำกำไร ” เปิดเวทีประชันไอเดีย “จับจังหวะเทรด ฟิวเจอร์ส และออปชั่น ให้กำไร ”
นายธวัชชัย ทองดี ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์(บล.) เอเซีย เวลท์ คาดว่า นักลงทุนต่างชาติยังขายไม่หยุด เพราะมีกำไรจากการซื้อและขายสัญญาฟิวเจอร์สที่ถูกทางตลอด รวมถึงสามารถยืมหุ้น(SBL)มาขายล่วงหน้าได้ด้วย การกลับมาขายรอบนี้หลังสงกรานต์ รวม 9.3 หมื่นล้านบาท ต้นทุนเฉลี่ย 1,748 จุด ตอนนี้ดัชนีเคลื่อนไหว 1,722 จุด ได้กำไรเล็กน้อย เกมส์เพิ่งเข้ามากลางๆเกมส์ สัญญาที่ขายสุทธิฟิวเจอร์ส ชอร์ต S50M18 นักลงทุนต่างชาติอาจจะต่ออายุไป S50U18 เนื่องจากในช่วงนี้ นักลงทุนสถาบันและรายย่อยช่วยกันซื้อ ทำให้ตลาดลดลงไปไม่มาก นักลงทุนต่างชาติชอร์ตไม่ได้ ดังนั้นจะต้องหาประโยชน์จากการปรับพอร์ตของต่างชาติ
นายธวัชชัยแนะนำให้ใช้ Calendar Spread Index Futures อาจจะซื้อ(long)S50U 18 และขาย(short) S50M18 พร้อมๆกัน หากดัชนีปรับตัวขึ้น ก็จะได้กำไรจาก S50U18 แต่ขาดทุนจากการขาย M18 ใกล้เคียงกัน แต่ถ้าดัชนีปรับตัวลง ก็จะได้กำไรจากการขาย S50M18 มีส่วนต่างให้เล่น
” สถานการณ์ที่ต่างชาติเล่นแบบนี้ เป็นแพทเทิร์น คล้ายกับในช่วงไตรมาส 4 ปี 2557 ตอนนั้นสเปรดต่ำลงมากเกินไป ตอนนี้ต่างชาติมีสถานะขายสุทธิ 1 แสนสัญญา ถ้ายังมีมุมมองตลาดเป็นลบ S50M18 มิ.ย.เป็นเดือนสุดท้าย สิ่งที่จะทำคือทยอยต่ออายุช่วงปลายเดือนนี้ และไปซื้อสัญญาไกล ซึ่งจะมีโอกาสที่สเปรดจะถูกกดลงมาก ดังนั้นนักลงทุนรายย่อยควรจะมองโอกาสนี้ในการลงทุนก่อน ”
ที่ผ่านมา นักลงทุนต่างชาติแม้ว่าได้ขายมาตลอดตั้งแต่ต้นปี 2556 จนถึงปัจจุบัน รวมเป็นเงินประมาณ 275,000 ล้านบาท ยกเว้นในเดือนม.ค.2559 มีการซื้อ กลับบ้าง ขณะนี้มีคำถามว่าขนหุ้นจากที่ไหนมาขาย ก็มาจากกำไรที่เกิดขึ้นจาการขาย(ชอร์ต)ในสัญญาฟิวเจอร์ส (FUTURES) โดยมาขายหนักๆ (net short) ประมาณ 1 แสนสัญญา ปลายปี 2557 ตอนที่ดัชนีร่วงลงมาจากแถว 1600 ลงมาเหลือ 1200 และต้นปี 2559 กลับมาซื้อ (net long) 1.6 แสนสัญญา ในช่วงเดือนก.ค.-ต.ค. ดัชนีขึ้นจาก 1600 ไป 1700 จุด
แนวโน้ม ตลาดยังปรับตัวขึ้นไม่ได้ หลังบริษัทจดทะเบียนประกาศงบหมดไตรมาส 2 หมดในเดือนส.ค. นักวิเคราะห์น่าจะมีโอกาสทบทวนปรับลดประมาณการลงมากกว่าที่ปรับขึ้น เนื่องจากกลุ่มธนาคารได้รับผลกระทบจากการลดค่าธรรมเนียม กลุ่มพลังงาน เจอราคาน้ำมันลดลง และกลุ่มสื่อสารไม่ค่อยดี ทำให้ตลาดยังปรับตัวขึ้นไม่ได้ คาดว่านักลงทุนต่างชาติที่เน็ทชอร์ต น่าจะต่ออายุ
ทางด้าน นายสุทธิสิทธิ์ แจ่มดี รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกิจหลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นระยะสั้นยังปรับตัวลง ส่วนแนวโน้มระยะกลางดีขึ้นและระยะยาวยาวจะปรับตัวขึ้นมาก หากจัดการเลือกตั้งจริง เชื่อว่าเงินต่างชาติจะไหลเข้ามา
ดังนั้นการลงทุนในสัญญาออปชั่นส์ การสร้างสถานะกลยุทธ์ Long Call Spread Trading ด้วย SET 50 Index Options แนะนำให้ขาย ( Short) Call Option ที่ราคาใช้สิทธิ สัญญาใกล้คือ หมดอายุสิ้นไตรมาสนี้ ให้ซื้อ (long) Call Option สัญญาหมดอายุสิ้นไตรมาส 3 เพื่อสร้างโอกาสทำกำไรจากการปรับขึ้นของ SET 50 โดยมีเทคนิคเลือกดัชนีใกล้เคียงกับปัจจุบัน กรณีที่คาดว่าดัชนีจะทรงตัว แต่หากมองว่าปรับตัวขึ้นก็ให้ขยับดัชนีที่สูงกว่าเล็กน้อย การใช้กลยุทธ์นี้ ยังได้กำไรหลังหักต้นทุนจากค่าคอมมิชชั่นและหลักประกันแล้ว
“สัญญาออปชั่น สร้างโอกาสทำกำไรขาขึ้นระยะยาว ด้วยต้นทุนที่ต่ำ และจำกัดการขาดทุน แต่การลงทุนจะต้องดูค่าความผันผวนประกอบด้วย ราคาออปชั่นยิ่งใกล้หมดอายุ มูลค่ายิ่งลงเร็ว ” นายสุทธิสิทธิ์ กล่าว
นายประกิต สิริวัฒนเกตุ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังเศรษฐกิจขยายตัวดีเกินคาดการณ์ และบล.กสิกรไทยปรับประมาณการเติบโตผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(จีดีพี)ปีนี้พิ่มขึ้นจากเดิม 4% มาอยู่ที่ 4.5% ส่งผลให้ดัชนีเป้าหมายปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 1,898 จุด จากเดิม 1,888 จุด
บล.กสิกรไทย ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในหุ้นเป็น 80% และถือเงินสด 20% จากเดิมถือหุ้น 60% ถือเงินสด 40% ส่วนกลุ่มที่น่าสนใจลงทุนคือกลุ่มธนาคาร กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มค้าปลีก และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง