TRUE เร่งขยายเครือข่าย 5G หลังคว้าคลื่น 2600MHz-26GHz ราคา 2.1 หมื่นลบ.

HoonSmart.com>> “ทรู คอร์ปอเรชั่น” พร้อมนำคลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz และ 26GHz หลังชนะประมูลราคา 2.1 หมื่นล้านบาท มาเร่งพัฒนาเครือข่าย 5G บริการคนไทยโดยเร็ว มั่นใจจุดเด่นความครบครันและครอบคลุมย่านความถี่ต่ำและย่านความถี่สูงทั้งหมด ผนึกพันธมิตร “ไชน่าโมบายล์” รวมถึงดิจิทัลแพลทฟอร์ม และคอนเทนต์ของกลุ่ม TRUE ที่เป็น Ecosystem ที่สำคัญของบริการ 5G

บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า บริษัท ทรู มูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อย เป็นผู้ชนะการประมูลใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมเคลื่อนที่สากล ตามที่คณะกรรมการกสทช. ประกาศผลการประมูล เมื่อวันที่ 16 ก.พ.2563 โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. คลื่นความถี่ย่าน 2600 MHz จำนวน 9 ชุดคลื่นความถี่ ย่านความถี่ 2600-2690 MHz ด้วยราคาประมูล 17,872,888,888 บาท และ2. คลื่นความถี่ย่าน 26 GHz จำนวน 8 ชุดคลื่นความถี่ ย่านความถี่ 24.3-25.1 GHz ด้วยราคาประมูล 3,576,888,888 บาท รวมราคาประมูล 21,449,777,776 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)

ทั้งนี้ TUC อยู่ในระหว่างรอหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะการประมูลอย่างเป็นทางการจาก กสทช. โดย TUC มีหน้าที่ต้องดำเนินการตามเงื่อนไขการดาเนินการก่อนรับใบอนุญาตของ กสทช. ภายในเวลาที่กสทช.กำหนด นับแต่วันที่ได้รับหนังสือแจ้งเป็นผู้ชนะการประมูล

ด้านนายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) ทรู คอร์ปอเรชั่น (TRUE) กล่าวว่า มูลค่าการประมูลคลื่น 5G ในครั้งนี้ เป็นไปตามที่บริษัทได้ประเมินไว้ ซึ่งได้ศึกษามาแล้วอย่างรอบคอบ พร้อมกับมีบริษัทที่ปรึกษาช่วยพิจารณาประเมินราคาที่เหมาะสมทางธุรกิจ ทำให้ได้ถือครองคลื่นความถี่ในย่านที่เหมาะสมและคุ้มค่าในการสร้างโอกาสทางธุรกิจ

อยางไรก็ดีทันทีที่บริษัทฯได้รับใบอนุญาตจากคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) จะสามารถนำคลื่นความถี่ที่ประมูลได้มาเพิ่มศักยภาพการให้บริการ 4G ในปัจจุบัน โดยจะช่วยเพิ่มประสบการณ์การใช้บริการดาต้าที่ดียิ่งขึ้น ตอบสนองความต้องการใช้งานของลูกค้าที่ต้องการความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ขณะเดียวกันจะเร่งพัฒนาเครือข่าย 5G ที่ดีที่สุดให้พร้อมใช้งานให้เร็วที่สุด เพื่อร่วมสร้างประโยชน์ให้กับทั้งภาคธุรกิจและประชาชนชาวไทย

“การประมูลคลื่น 5G ในครั้งนี้ ได้พลิกโฉมวงการโทรคมนาคมไทย เข้าสู่การให้บริการในยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง และเป็นโอกาสที่สำคัญที่ทำให้กลุ่มทรูจะเป็นผู้นำที่สร้างการเปลี่ยนแปลง ให้ประเทศไทยอีกครั้ง ซึ่งเรายังคงมุ่งมั่นมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้า และสร้างสรรค์บริการ เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้ใช้บริการที่ดีที่สุด ทั้งยังจะนำเทคโนโลยีและบริการ 5G ร่วมสร้างประโยชน์ในทุกมิติอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเป็นสังคม เศรษฐกิจ การศึกษา การสาธารณสุข และสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ประเทศไทยเข้มแข็งและเติบโตอย่างยั่งยืน” นายอาณัติ กล่าว

ทั้งนี้ การชนะการประมูลคลื่นย่านความถี่เพื่อให้บริการ 5G ในครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งไมล์สโตนที่สำคัญของกลุ่ม TRUE ที่จะเดินหน้ารักษาความเป็นผู้นำบริการดิจิทัลที่ไม่เคยหยุดนิ่งที่จะพัฒนานวัตกรรมบริการต่างๆ ให้ชาวไทยได้ก้าวทันทุกเทรนด์เทคโนโลยีของโลก ซึ่งการชนะการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 2600MHz และ 26GHz ในครั้งนี้เป็นไปตามกลยุทธ์ของบริษัทฯ ที่จะเป็นเครือข่ายที่ดีที่สุด ซึ่งต้องเติมเต็มคลื่นความถี่ในปริมาณที่มากขึ้นให้เพียงพอรองรับทุกการเปลี่ยนแปลง และมีครบทั้งย่านความถี่ต่ำและย่านความถี่สูง

โดยเฉพาะคลื่นความถี่ย่าน 2600MHz ที่ชนะการประมูลครั้งนี้ นับเป็นคลื่นความถี่หลักที่จะสร้างความได้เปรียบในการให้บริการ 5G ของกลุ่มทรูได้อย่างโดดเด่นและเหนือชั้น เพราะนอกจากจะเป็นคลื่นความถี่ที่เหมาะสมกับการให้บริการ 5G มี Ecosystem ทั้งอุปกรณ์โครงข่าย สมาร์ทโฟนพร้อมรองรับในตลาดแล้วทั่วโลก ยังเป็นคลื่นความถี่ในย่านเดียวกันกับบริการ 5G ของไชน่าโมบายล์ ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่สำคัญของกลุ่ม TRUE ที่พร้อมสนับสนุนทั้งในด้านองค์ความรู้ ความชำนาญ และ Best Practice เพื่อเสริมศักยภาพและความแข็งแกร่งให้กลุ่มทรูสามารถเปิดให้บริการ 5G ได้เร็วที่สุด และสร้างสรรค์บริการได้หลากหลายรอบด้านมากที่สุด

อีกทั้งกลุ่ม TRUE ยังมีความพร้อมด้านดิจิทัลแพลทฟอร์ม คอนเทนต์ IoT ที่เป็น Ecosystem ที่สำคัญของบริการ 5G ไม่ว่าจะเป็น ทรูไอดี, และ Vertical Solutions ต่างๆ ที่จะนำมาต่อยอดเพื่อเติมเต็มบริการ 5G ให้ตอบสนองทั้งไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล และตอบโจทย์การใช้งานของภาคธุรกิจในทุกอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพรวดเร็วกว่า ขณะเดียวกัน คลื่นในย่านความถี่ย่านต่ำ ทั้ง 700MHz 850MHz และ 900MHz ที่บริษัทมีอยู่แล้ว สามารถผสมผสานในการขยายโครงข่ายให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศได้เป็นอย่างดี