JKN เน้นทำตลาดอาเซียน ตะวันออกกลาง ไต้หวัน เฟสแรกเตรียมนำละครช่อง 3 กว่า 70 เรื่องลงสนาม คาดหวังรายได้เบื้องต้นเก้าหลักเป็นอย่างน้อยในปีแรก ส่วน Q2 นี้มั่นใจโตกว่าปีก่อน
นายจักรพงษ์ จักราจุฑาธิบดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจเคเอ็น โกลบอล มีเดีย (JKN) ผู้นำการจัดจำหน่ายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ระดับสากล เปิดเผยว่า ดีลล่าสุดกับช่อง3 ในการเป็นตัวแทนจำหน่ายคอนเทนต์ละครของช่อง 3 ในตลาดต่างประเทศทั่วโลกเป็นการตอกย้ำว่าบริษัท JKN มีรายได้ในทุกช่องทางจากทรัพยากรคอนทนต์ที่เรามีอยู่ในมือ ไม่ใช่เพียงเฉพาะซี่รี่ส์อินเดียที่สร้างรายได้ให้กับเราเท่านั้น แต่ยังมีคอนเทนต์ในทุกหมวดหมู่ที่สร้างรายได้ให้บริษัทอย่างมหาศาล และมั่นใจว่าจะส่งผลให้ผลประกอบการและรายได้ในไตรมาส 2 นี้ จะดีกว่าปีก่อนอย่างแน่นอน เมื่อเทียบกันรายไตรมาส
“คอนเทนต์ของช่อง 3 เจเคเอ็นฯจะเน้นทำตลาดอาเซียน เช่น ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย และบรูไน เป็นต้น รวมถึง กลุ่มประเทศตะวันออกกลาง ไต้หวันด้วย ซึ่งเฟสแรกเตรียมนำละครที่ออกอากาศระหว่างปี 2556-2560 จำนวน 70 เรื่องออกไปทำตลาด โดยคาดหวังรายได้เบื้องต้นเก้าหลักเป็นอย่างน้อยในปีแรก”นายจักรพงษ์ กล่าว
ปัจจุบัน JKN มีคอนเทนต์ในมือมากมาย รวมทั้งหมดกว่า 8 กลุ่มด้วยกัน 1. Asian Fantasy ลิขสิทธิ์คอนเทนต์ซี่รี่ส์ต่างๆที่เรารู้จักกันดี ทั้งซี่รี่ส์อินเดียและฟิลิปปินส์ เป็นต้น นอกจากลูกค้าเก่าที่มีอยู่แล้ว ยังมีลูกค้าใหม่ๆสนใจคอนเทนต์เพื่อนำไปออกอากาศอย่างต่อเนื่อง
2.Hollywood Hit ลิขสิทธิ์คอนเทนต์กลุ่มซี่รี่ส์และภาพยนต์ชื่อดังจากสหรัฐอเมริกา 3.I-Magic ลิขสิทธิ์คอนเทนต์กลุ่ม สารคดีสัตว์โลก ธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ จากผู้ผลิตชื่อดังทั่วโลก 4.Kids Inspired ลิขสิทธิ์คอนเทนต์กลุ่มการ์ตูนต่างประเทศ ทั้งฝั่งญี่ปุ่นและยุโรป 5.News ลิขสิทธิ์คอนเทนต์กลุ่มข่าว ที่เราได้รับลิขสิทธิ์มาจาก CNBC ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่ล่าสุดได้เปิดตัวรายการ First Class Thailand By JKN-CNBC เมื่อปลายเดือน พ.ค. ที่ผ่านมา และเตรียมผลิตอีกหลายรายการคุณภาพมาให้ได้รับชมกัน นอกจากนี้ยังมีอีก 3 กลุ่มที่จะได้เห็นอะไรใหม่ๆในเร็วๆนี้ 6.JKN originals คอนเทนต์สารคดีเฉลิมพระเกียรติ 7.Music star parade คอนเทนต์คอนเสิร์ตต่างประเทศ 8.Super Show คอนเทนต์โชว์จากต่างประเทศ
นายจักรพงษ์ กล่าวว่า คอนเทนต์ใหม่ของบริษัท JKN จะได้เห็นทั้งหมดในวันที่ 1 ส.ค.นี้ ในงาน Mega Showcase Diamond Blue โดยมีลูกค้าเกือบทุกช่องสถานีดิจิตอลในเมืองไทยตอบรับเข้าร่วมงาน โดยคาดว่าจะสร้างรายได้อีกก้อนใหญ่ให้กับบริษัทอย่างแน่นอน สมฉายา “เจ้าแม่กินรวบแห่งเมืองไทย”