บลจ.ยูโอบีปลื้มกอง United Harmony สินทรัพย์ทะลุ 5 พันลบ.ชูผลตอบแทนเด่น

HoonSmart.com>> บลจ.ยูโอบี ปลื้มนักลงทุนตอบรับกองทุนเปิด United Harmony Fund Series เปิดตัว 4 เดือนมูลค่าสินทรัพย์ทะลุกว่า 5,000 ล้านบาท เติบโตกว่า 800% ชูกองทุนกลยุทธ์กระจายการลงทุนหลายสินทรัพย์ ผู้จัดการกองทุนปรับพอร์ตลงทุนตามสภาวะการณ์ หนุนผลตอบแทนโดดเด่น

น.ส.รัชดา ตั้งหะรัฐ กรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี (ประเทศไทย) จำกัด หรือ UOBAM เปิดเผยว่า หลังจากบริษัทเปิดเสนอขายกองทุนเปิด ยูไนเต็ด ฮาร์โมนี ฟันด์ ซีรีส์ มาเป็นเวลา 4 เดือน โดยเปิดขายหน่วยลงทุนครั้งแรกเมื่อวันที่ 20 – 26 ก.ย.2562 ซึ่งได้รับความสนใจและการตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุน ประกอบกับทีมบริหารกองทุนของ UOBAM ที่มีความเชี่ยวชาญและได้รับความร่วมมือทางด้านข้อมูลการลงทุนในระดับภูมิภาค ส่งผลให้กองทุนมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ (NAV) เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดย ณ วันที่ 17 ม.ค.2563 มีมูลค่า 5,132 ล้านบาท เติบโตกว่า 800% จากวันจดทะเบียนกองทุน 30 ก.ย.2562 อยู่ที่ 568 ล้านบาท

“จุดเด่นของกองทุน ที่เป็นปัจจัยหนุนทำให้กองทุนประสบความสำเร็จนั้น มาจากกลยุทธ์การบริหารพอร์ตการลงทุนของทีมผู้จัดการกองทุนที่มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์การบริหารกองทุนมาอย่างยาวนาน เป็นทีมงานที่คอยติดตามสถานการณ์ต่างๆอย่างใกล้ชิด รวมถึงประสานงานกับทีม UOBAM Group และทีมผู้จัดการกองทุนหลายบริษัทจัดการในระดับภูมิภาค อาทิเช่น UBS Asset Management Wellington Asset Management และ PIMCO Global Advisors (Ireland) Limited เป็นต้น ซึ่งในแต่ละโมเดลการลงทุนจะมีการกำหนดสินทรัพย์ที่ลงทุนแตกต่างกัน โดยจะร่วมพัฒนาพอร์ตการลงทุน เข้าถึงข้อมูลการวิเคราะห์เชิงลึก พร้อมทั้งวางแผนพัฒนา ปรับเปลี่ยน และ rebalance พอร์ตการลงทุนให้สอดคล้องกับสถานการณ์ลงทุนอยู่เสมอ เพื่อสร้างผลตอบแทนสูงสุดบนความเสี่ยงที่เหมาะสมของแต่ละกองทุน การบริหารจัดการกองทุนที่มีประสิทธิภาพนี้ ส่งผลให้กองทุนสามารถบริหารผลการดำเนินงานได้ดี เป็นผลให้กองทุนได้รับการตอบรับจากนักลงทุนอย่างมาก”น.ส.รัชดา กล่าว

ทั้งนี้ กองทุน United Harmony–Jazz Fund (UJAZZ) เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับต่ำถึงกลาง เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนบนอัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นตัวชี้วัด 4% ต่อปี มีความผันผวนปานกลางเฉลี่ย 4-6% กองทุนที่สองได้แก่ กองทุน United Harmony–Pop Fund (UPOP) เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางถึงสูง เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนบนอัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นตัวชี้วัด 6% ต่อปี มีความผันผวนไม่สูงมากเฉลี่ย 6-10% และกองทุนที่ 3 ได้แก่ กองทุน United Harmony–Rock Fund (UROCK) เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่รับความเสี่ยงสูงได้ เน้นลงทุนในหุ้น เพื่อโอกาสรับผลตอบแทนบนอัตราผลตอบแทนที่ใช้เป็นตัวชี้วัด 8% ต่อปี มีความผันผวนสูงเฉลี่ย 10-15%

ด้านผลการดำเนินงานย้อนหลังของกองทุน ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ โดยกองทุน UJAZZ ให้ผลตอบแทนนับจากจัดตั้งกองทุน (ถึงวันที่ 17 ม.ค. 2563) อยู่ที่ 4.06% กองทุน UPOP ให้ผลตอบแทนนับจากจัดตั้งกองทุน (ถึงวันที่ 17 ม.ค. 2563) อยู่ที่ 5.14% และกองทุน UROCK ให้ผลตอบแทนนับจากจัดตั้งกองทุน (ถึง 17 ม.ค. 2563) อยู่ที่ 7.06%

สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจและการลงทุนในปี 2562 แม้ว่าจะเผชิญกับปัจจัยสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องสงครามการค้าของจีนและสหรัฐฯที่ยังคงเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญต่อเศรษฐกิจโลก และส่งผลให้ภาวะตลาดการลงทุนมีความผันผวนสูงต่อเนื่อง และในปี 2563 ยังคงมีประเด็นความเสี่ยงทางการเมือง การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผลกระทบจากประเด็น Brexit และประเด็นความขัดแย้งในตะวันออกกลาง และการแพร่ระบาดของเชื้อไว้รัสโคโรน่า เพิ่มเติมมาเป็นปัจจัยหลักที่อาจส่งผลต่อการเติบโตของเศรษฐกิจโลก

แต่อย่างไรก็ตามเริ่มต้นปี 2563 เศรษฐกิจโลกเริ่มแสดงสัญญาณการฟื้นตัวทั้งในภาคการผลิตและภาคบริการ หลังจากที่ชะลอตัวลงมานานถึงเกือบ 2 ปี ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ทั่วโลกดำเนินนโยบายการเงินและการคลังแบบผ่อนคลายในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา บวกกับความคาดหวังว่าความตึงเครียดทางการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯ จะคลายตัวลงไป ซึ่งจากประมาณการล่าสุดของ IMF ชี้ว่าเศรษฐกิจโลกปรับตัวขึ้นเป็น +3.3% yoy ในปี 2563 จากปี 2562 อยู่ที่ +2.9% yoy และมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่องโดยประมาณการณ์ในปี 2564 อยู่ที่ +3.4% yoy

“บลจ. ยูโอบี มองว่าการแนะนำผู้ลงทุนในสภาวะการลงทุนปัจจุบัน ควรเน้นการเลือกจัดสรรพอร์ตการลงทุน และกระจายการลงทุนผ่าน กองทุนเปิด United Harmony Fund Series (UJAZZ UPOP UROCK) ซึ่งช่วยสร้างโอกาสทางการลงทุนให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวและลดความผันผวนของพอร์ตการลงทุนโดยรวมได้” น.ส.รัชดากล่าว

นอกจากนี้ธนาคารยูโอบี ซึ่งเป็นตัวแทนหลักในการขายกองทุนเปิด United Harmony Fund Series ได้แนะนำการลงทุนในสภาวะตลาดปัจจุบัน โดยเน้นการสร้างความสมดุลของพอร์ตผ่านการกระจายการลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยง เพื่อตอบโจทย์การลงทุนท่ามกลางปัจจัยความไม่แน่นอนต่างๆ ด้วยเช่นกัน