FTREIT อัตราเช่าพื้นที่เพิ่มหนุน Q1/63 ปันผล 0.1670 บาท

HoonSmart.com>> ทรัสต์ FTREIT โชว์ผลงานไตรมาสแรก ปีงบประมาณ 63 กวาดรายได้รวม 763.16 ล้านบาท รายได้จากการลงทุนสุทธิ 482.50 ล้านบาท ชูอัตราการเช่าพื้นที่เพิ่ม 2% แตะ 85.1% ประกาศจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์อัตรา 0.1670 บาทต่อหน่วยยังครองเบอร์หนึ่งกองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ขนาดใหญ่สุดของไทย

บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด หรือ FIRM ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2563 สิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 FTREIT มีรายได้จากการลงทุนสุทธิ 482.50 ล้านบาท จากรายได้รวม 763.16 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามด้วยการบริหารจัดการทรัพย์สินอย่างมีประสิทธิภาพของผู้จัดการกองทรัสต์ ทำให้ FTREIT มีอัตราการเช่าพื้นที่ (Occupancy Rate) ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 85.1% เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้าที่ 83.1% ซึ่งผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งดังกล่าวเป็นผลมาจากการที่กองทรัสต์สามารถหาผู้เช่าพื้นที่โรงงานและคลังสินค้าเพิ่มเติมได้ ตลอดจนมีการบริหารจัดการค่าใช้จ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2563 คณะกรรมการของผู้จัดการกองทรัสต์อนุมัติจ่ายผลประโยชน์ตอบแทนในอัตรา 0.1670 บาทต่อหน่วย

ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2563 FTREIT ได้เข้าลงทุนในทรัพย์สินศักยภาพสูง จาก บริษัท สหไทย พรอพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ในจังหวัดชลบุรี ตั้งอยู่ใกล้กับท่าเรือน้ำลึกแหลมฉบัง และนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง โดยทรัพย์สินดังกล่าวครอบคลุมที่ดินกว่า 125 ไร่ ประกอบด้วยอาคารคลังสินค้า 11 หลัง (24 ยูนิต) บนพื้นที่เช่ารวม 80,216 ตารางเมตร ด้วยมูลค่ารวม 2.05 พันล้านบาท ซึ่งการลงทุนครั้งนี้ส่งผลให้กองทรัสต์ FTREIT ยังคงครองตำแหน่งกองทรัสต์อุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยมูลค่าทรัพย์สินรวม 39,182.79 ล้านบาท

นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมนเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ปัจจุบันทรัพย์สินภายใต้การบริหารจัดการของกองทรัสต์ FTREIT ประกอบด้วย อาคารโรงงานและคลังสินค้ารวม 578 ยูนิต บนพื้นที่ให้เช่ารวม 1.76 ล้านตารางเมตร โดยทุกโครงการตั้งอยู่ในทำเลยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของไทย อาทิ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี สมุทรปราการ และจังหวัดในพื้นที่อีอีซี

“ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ เรามั่นใจว่าจะสามารถบริหารจัดการทรัพย์สินภายใต้กองทรัสต์ให้มีอัตราการเช่าที่อยู่ในระดับที่สูง ตลอดจนลดค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการทรัพย์สินในปี 2563 นี้ พร้อมเดินหน้าหาโอกาสในการลงทุนในทรัพย์สินที่มีศักยภาพเพื่อสร้างรายได้และผลตอบแทนที่ยั่งยืนแก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ FTREIT ต่อไป”นายพีระพัฒน์ กล่าว