HoonSmart.com>>บล.เอเซียพลัสปรับลดประมาณการกำไรปี 2563 ของบจ. 10 แห่ง PTTGC ทรุดมากสุด -8.03 ล้านบาท IVL ติดลบ 7.89 ล้านบาท SCB ลดลง 6.05 ล้านบาท SCC – 3.71 ล้านบาท BBL ลดลง 2.28 ล้านบาท กดดันภาพรวมตลาดทำกำไรได้ 9.68 แสนล้านบาท โตเพียง 0.5% หลังปรับลดเศรษฐกิจขยายตัวเพียง 2.5% เงินทุนไหลออก ให้แนวรับ 1,500 จุด
นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการสายงานวิจัย บล.เอเซีย พลัส (ASPS) เปิดเผยว่า บริษัทมีแผนจะปรับลดประมาณการกำไรสุทธิ และกำไรต่อหุ้น (EPS) ของบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในปี 2563 อย่างเป็นทางการ หลังการประกาศงบการเงินงวดปี 2562 เบื้องต้นได้ปรับลดคาดการณ์กำไรบจ.ในปี 2563 จาก 1 ล้านล้านบาท เหลือ 9.68 แสนล้านบาท คิดเป็นกำไรต่อหุ้นระดับ 92.62 บาท/หุ้น ยังเติบโตเล็กน้อย 0.5% เมื่อเทียบกับปี 2562
ฝ่ายวิจัยฯได้ทบทวนเบื้องต้นมีการปรับลดประมาณการกำไรบริษัทขนาดใหญ่ 10 แห่ง กระจายในกลุ่มแบงก์พาณิชย์, ปิโตรเคมี, วัสดุก่อสร้าง, กลุ่ม ICT และสนามบิน รวมประมาณ 32.235 ล้านบาท เช่น PTTGC -8.03 ล้านบาท IVL ติดลบ 7.89 ล้านบาท SCB ปรับลดลง 6.05 ล้านบาท BBL ลดลง 2.28 ล้านบาท
ทั้งนี้ มีการปรับสมมุติฐาน เพราะมีโอกาสสูงว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่ำกว่า 2.5% จากที่ประเมินไว้ 2.8% ขณะที่ Consensus คาดการณ์กันช่วง 2.7-3.2% หลังเศรษฐกิจโลกชะลอตัวชัดเจน จากการระบาดของไวรัสโคโรนา และสงครามการค้าสหรัฐและจีนยังไม่ได้ยกเลิกการจัดเก็บภาษีรอบ 1-3 และความเสี่ยงที่สหรัฐตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (GSP) ไทย รวมถึงความล่าช้าการเบิกจ่ายงบประมาณปี 2563 ภาวะภัยแล้ง และภาคการท่องเที่ยวจะได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนา
นอกจากนี้ มีหลายปัจจัยที่ส่งผลกระทบทางลบต่อผลประกอบการของบจ.ไม่ว่าจะเป็นการใช้มาตรฐานการบัญชี TFRS16 เรื่องสัญญาเช่า ซึ่งมีผลต่อทั้งงบกำไรขาดทุน และโครงสร้างการเงิน รวมทั้งยังมีกลุ่ม Real Sector บางส่วน ที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
” เศรษฐกิจปีนี้จะขยายตัวต่ำกว่า 2.5% ซึ่งจะเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี และเมื่อย้อนมาดูปัจจัยพื้นฐานของตลาดหุ้น พบว่ามีปัจจัยลบรอบด้านเข้ามากระทบ บวกกับเงินทุนต่างประเทศที่ยังไหลออกต่อเนื่อง ล่าสุดนับตั้งแต่ต้นปีนี้มียอดขายสุทธิ 1.73 หมื่นล้านบาท กดดันให้ดัชนีปรับฐานลงมาทำจุดต่ำสุดในรอบ 3 ปี และน่าจะยังอยู่ในช่วงปรับฐานต่อไป ระยะสั้นมี 1,500 จุดเป็นแนวรับ” นายเทิดศักดิ์ กล่าว