“บางกอกชีทเม็ททัล” อัพเป้ารายได้ปี 61 โตกว่า 20% จากเดิม 10-20% รับออเดดอร์เพิ่ม ล่าสุดคว้างานเสาสื่อสารเพิ่มเป็น 900 ต้น ลุยเร่งผลิต 150 ต้นต่อเดือน หนุนตอบโจทย์ความต้องการลูกค้า ลุยยื่นซองประมูลงานโปรเจ็คภาครัฐมูลค่ากว่าพันล้านบาท
นายธีรวัต อมรธาตรี กรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกชีทเม็ททัล (BM) เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้รับงานเสาสื่อสารโทรคมนาคมเพิ่มขึ้นเป็น 900 ต้น จากเดิมที่มีออเดอร์เข้ามาประมาณ 500 ต้น ดังนั้นบริษัทฯจึงมีการเร่งผลิตให้ทันกับความต้องการของลูกค้า โดยคาดว่าจะมีกำลังการผลิตประมาณ 150 ต้นต่อเดือน ซึ่งตั้งแต่ในช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมาได้เริ่มทยอยส่งมอบบางส่วนแล้ว และคาดจะมีออเดอร์ใหม่เพิ่มเข้าขึ้นมาอีก โดยงานที่เพิ่มขึ้นจะช่วยดันยอดขายของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ
ทั้งนี้จากปัจจัยการที่ได้รับงานเสาสื่อสารโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น ประกอบกับมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรของการถือหุ้นจำนวน 20% ในบริษัท เอ็ม อี ซี ที จำกัด หรือ MECT ส่งผลให้เบื้องต้นบริษัทฯประเมินว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/61จะเติบโตอย่างโดดเด่น อีกทั้งบริษัทฯมีแนวโน้มจะปรับเป้ารายได้ในปี 2561 เป็นเติบโตมากกว่า 20% จากเดิมที่คาดรายได้ปีนี้เติบโต 10-20% โดยในปี 2560 มีรายได้อยู่ที่ 846.80 ล้านบาท เนื่องจากการได้รับออเดอร์ในส่วนของเสาสื่อสารโทรคมนาคมเพิ่มขึ้น ประกอบกับออเดอร์ที่สูงขึ้นจากทุกธุรกิจ
นอกจากนี้บริษัทฯ มียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 300 – 400 ล้านบาท ซึ่งเริ่มทยอยรับรู้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วจนถึงต้นปีนี้ และบริษัทฯอยู่ระหว่างการยื่นประมูลโครงการของภาครัฐในโครงการพื้นฐาน ซึ่งมีมูลค่าโครงการกว่า 1,000 ล้านบาท ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้า รถไฟฟ้ารางคู่ สนามบิน เป็นต้น โดยเฉพาะในส่วนของรางและท่อร้อยสายไฟ เพื่อช่วยสนับสนุนให้กับงานรถไฟฟ้ามากยิ่งขึ้น
“บริษัทฯ มีแนวโน้มจะปรับเป้าการเติบโตของบริษัทเป็นเติบโตมากกว่า 20% จากเดิมที่คาดในปีนี้ประมาณ 10-20% หรือคิดเป็นเม็ดเงินประมาณ 1,000 ล้านบาท เพราะมีออเดอร์เพิ่มขึ้นในทุกหมวดธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นรางและท่อร้อยสายไฟฟ้า ตู้สื่อสาร ตู้ไฟฟ้าและตู้โลหะ แผงควบคุมไฟฟ้าและโคมไฟฟ้า โลหะเชื่อมประกอบ เครื่องมือ เครื่องจักรกล และอุปกรณ์ และชิ้นส่วนโลหะ ” นายธีรวัต กล่าว
สำหรับผลประกอบการของบริษัทฯ ประจำไตรมาสที่ 1 ของปี 2561 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2561 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 9.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.38 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 17.29% เมื่อเทียบกับผลประกอบการของช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 7.98 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 216.03 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.34 ล้านบาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 7.11% เมื่อเทียบกับผลประกอบการของช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 201.69 ล้านบาท โดยการเพิ่มขึ้นของทั้งกำไรสุทธิ และรายได้ของบริษัทฯ เป็นผลมาจากการที่ได้รับคำสั่งซื้อสินค้าราง และท่อร้อยสายไฟจากโครงการเดิมที่ต่อเนื่องมาจากปีก่อน ได้แก่ โครงการคอนโดมีเนียม และโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว เป็นต้น รวมถึงยังได้รับงานจากโครงการใหม่ ซึ่งเป็นการผลิตตู้สื่อสาร และคำสั่งผลิตเสาสัญญาณโทรคมนาคมจากผู้ให้บริการรายใหญ่ ประกอบกับยังมีการรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วม คือ บริษัท นิตโต้ โคเกียว บีเอ็ม (ประเทศไทย) จำกัด หรือ NBT ซึ่งชื่อเดิมคือ บริษัท นิตโต้ โคเกียว เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด