นายกฯคาดเศรษฐกิจปีนี้โต4.7% ทุนสำรองแข็งแกร่ง

“ประยุทธ์” ชี้แจงร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2562 ต่อสนช. คาดเศรษฐกิจไทยปีนี้โต 4.7 ปีหน้าโต 4.9% ทุนสำรองแข็งแกร่ง ขณะที่เงินเฟ้อยังอยู่ในระดับต่ำ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ชี้แจงร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 กรอบวงเงิน 3 ล้านล้านบาท ต่อที่ประชุมสภานิติบัญญัติ (สนช.) เมื่อช่วงสายของวันนี้ (7 มิ.ย.) โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยปี 2561 จะเติบโตที่ 4.2-4.7% โดยมีอัตราเงินเฟ้ออยู่ที่ 0.7-1.7% จากการปรับตัวดีขึ้นของการใช้จ่ายในประเทศและการเพิ่มขึ้นของราคาน้ำมัน ส่วนดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล 8.4% ของจีดีพี

“เศรษฐกิจไทยปีนี้มีแนวโน้มขยายตัวชัดเจนและต่อเนื่อง จากแรงขับเคลื่อนของภาคส่งออกที่ขยายตัวดีและการใช้จ่ายภายในประเทศที่ปรับดีขึ้น ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปยังอยู่ในระดับต่ำ แต่มีทิศทางปรับสูงขึ้นตามการขยายตัวของการใช้จ่ายภายในประเทศ และคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.5% เพื่อสนับสนุนการขยายตัวของเศรษฐกิจและเอื้อให้เงินเฟ้อกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายนโยบายการเงิน”พล.อ.ประยุทธ์ระบุ

พล.อ.ประยุทธ์ ชี้แจงร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี 2562 ต่อที่ประชุมสนช.

ขณะที่ปี 2562 คาดว่าจะเติบโตที่ 3.9-4.9% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการใช้จ่ายภายในประเทศที่มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งในด้านการใช้จ่ายภาคครัวเรือน และการลงทุนภาคเอกชนที่มีการขยายตัวสูงขึ้น รวมทั้งความคืบหน้าของโครงการลงทุนภาครัฐที่เข้าสู่ขั้นตอนของการก่อสร้าง ในขณะที่การส่งออกสินค้าและการท่องเที่ยวยังมีการขยายตัวดีตามแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า

“เสถียรภาพทางเศรษฐกิจในปี 2562 ยังมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดี โดยคาดว่าอัตราเงินเฟ้ออยู่ในช่วง 0.9-1.9 ในขณะที่ดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลประมาณ 6.3 ของจีดีพี”พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

สำหรับร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯปี 2562 กรอบวงเงิน 3 ล้านล้านบาทดังกล่าว รัฐบาลคาดว่าจะจัดเก็บรายได้สุทธิทั้งสิ้น 2.67 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน เมื่อหักการจัดสรรภาษีมูลค่าเพิ่มให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 1.23 แสนล้านบาท คงเหลือรายได้สุทธิที่สามารถนำมาจัดสรรเป็นรายจ่ายของรัฐบาล 2.55 ล้านล้านบาท ทำให้รัฐบาลต้องกู้เงินมาชดเชยการขาดดุลงบประมาณ 4.5 แสนล้านบาท

่ส่วนรายละเอียดการใช้จ่ายภายใต้ร่างพ.ร.บ.งบประมาณฯดังกล่าว จำแนกเป็นรายจ่ายประจำ 2.26 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็น 75.4% ของงบประมาณ รายจ่ายลงทุน 6.6 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 22% ของงบประมาณ และรายจ่ายคืนต้นเงินกู้ 7.8 หมื่นล้านบาท หรือคิดเป็น 2.6% ของงบประมาณ

พล.อ.ประยุทธ์ ระบุว่า ปัจจุบันฐานะเงินคงคลัง ณ วันที่ 31 พ.ค.2561 มีจำนวน 3.17 แสนล้านบาท โดยรัฐบาลจะบริหารเงินคงคลังให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และบริหารรายรับและรายจ่ายของรัฐให้มีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุด ส่วนมูลค่าเงินสำรองระหว่างประเทศ ณ วันที่ 30 เม.ย. 2561 มีจำนวน 2.15 แสนล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นประมาณ 3.6 เท่าของหนี้ต่างประเทศระยะสั้น ซึ่งถือว่าอยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง