KBANK ปี 62 กำไร 3.87 หมื่นลบ. โต 0.70%

HoonSmart.com>> แบงก์กสิกรไทย ปี 62 กำไรสุทธิ 3.87 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.70% จากงวดปีก่อน รายได้ดอกเบี้ยและไม่ใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เฉพาะไตรมาส 4/62 กำไรสุทธิ 8.80 พันล้านบาท ลดลง 11.55% จากไตรมาสก่อนหน้า

ขัตติยา อินทรวิชัย

ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) แจ้งผลการดำเนินงานปี 2562 สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562 กำไรสุทธิ 38,726.74 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 16.18 บาท เพิ่มขึ้น 268 ล้านบาท หรือ 0.70% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 38,459.12 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 16.07 บาท

น.ส.ขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย (KBANK) เปิดเผยว่า ปี 2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีรายได้ดอกเบี้ยสุทธิเพิ่มขึ้นจำนวน 4,150 ล้านบาท หรือ 4.21% ส่วนใหญ่เกิดจากรายได้ดอกเบี้ยรับจากเงินให้สินเชื่อและเงินลงทุน ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.31% นอกจากนี้ รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 858 ล้านบาท หรือ 1.51% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการจำหน่ายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น

ในขณะที่รายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง รวมทั้งการยกเลิกค่าธรรมเนียมการโอนเงินผ่านช่องทางดิจิทัล สำหรับค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้นจำนวน 4,381 ล้านบาท หรือ 6.41% หลัก ๆ เกิดจากกิจกรรมประชาสัมพันธ์สร้างแบรนด์ และกิจกรรมทางการตลาด ซึ่งสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของธนาคาร ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) อยู่ที่ระดับ 45.32%

ทั้งนี้ ธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจากปีก่อน โดยพิจารณาปัจจัยต่าง ๆ อย่างรอบคอบเพื่อให้สอดคล้องกับความไม่แน่นอนของภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวอย่างต่อเนื่อง

สำหรับผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาส 4 ปี 2562 เมื่อเปรียบเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีกำไรสุทธิจำนวน 8,802 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสก่อนจำนวน 1,149 ล้านบาท หรือ 11.55% โดยรายได้ดอกเบี้ยสุทธิลดลงจำนวน 526 ล้านบาท หรือ 2.02% ทำให้อัตราผลตอบแทนสินทรัพย์ที่ก่อให้เกิดรายได้สุทธิ (Net interest margin: NIM) อยู่ที่ระดับ 3.25% ในขณะที่รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจำนวน 385 ล้านบาท หรือ 2.44% ซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากรายได้จากการจำหน่ายหลักทรัพย์เพิ่มขึ้น ในขณะที่รายได้สุทธิจากการรับประกันภัยลดลง

อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ เพิ่มขึ้นจำนวน 3,374 ล้านบาท หรือ 18.95% ซึ่งเป็นปกติตามฤดูกาล รวมถึงกิจกรรมประชาสัมพันธ์สร้างแบรนด์ และกิจกรรมทางการตลาด โดยสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ทางธุรกิจของธนาคาร ส่งผลให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายจากการดำเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการดำเนินงานสุทธิ (Cost to income ratio) ในไตรมาสนี้อยู่ที่ระดับ 50.75% นอกจากนี้ ธนาคารมีการตั้งสำรองค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญลดลงจากไตรมาสก่อน

“สถานการณ์เศรษฐกิจไทยในปี 2562 ยังไม่ฟื้นตัวชัดเจนนัก โดยภาคการส่งออกยังคงหดตัวลงท่ามกลางผลกระทบจากเงินบาทที่แข็งค่าและสัญญาณชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก แม้ว่าสหรัฐฯ และจีนจะสามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้าระยะที่ 1 และได้ลงนามข้อตกลงดังกล่าวในเดือนม.ค.2563 ก็ตามนอกจากนี้บรรยากาศการลงทุนภาคเอกชนและรัฐบาลก็ยังคงมีทิศทางชะลอตัว ขณะที่แม้การบริโภคภาคเอกชนจะขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง แต่ก็เริ่มชะลอลงในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลมีผลช่วยประคองกำลังซื้อในประเทศได้บางส่วนในช่วงปลายปี”น.ส.ขัตติยา กล่าว

ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 ธนาคารและบริษัทย่อยมีสินทรัพย์รวมจำนวน 3,293,889 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 2561 จำนวน 138,798 ล้านบาท หรือ 4.40% ส่วนใหญ่เป็นการเพิ่มขึ้นของเงินลงทุนสุทธิ และการเติบโตของสินเชื่อ สำหรับเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพต่อเงินให้สินเชื่อ (%NPL gross) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 อยู่ที่ระดับ 3.65% ขณะที่สิ้นปี 2561 อยู่ที่ระดับ 3.34% อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ (Coverage ratio) ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 อยู่ที่ระดับ 148.60% โดยสิ้นปี 2561 อยู่ที่ระดับ 160.60% สำหรับอัตราส่วนเงินกองทุนทั้งสิ้นต่อสินทรัพย์เสี่ยงของกลุ่มธุรกิจทางการเงินธนาคารกสิกรไทยตามหลักเกณฑ์ Basel III ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562 อยู่ที่ 19.62% โดยมีอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 อยู่ที่ 16.19%

อ่านข่าว

แห่หั่นเป้ากำไร-ราคา SCB ตอกย้ำกลุ่มแบงก์ถูกเมินอีกนาน