ธนาคารโลกคงคาดการ์เศรษฐกิจโลกปีนี้และปีหน้า เตือนอาจเผชิญปัจจัยเสี่ยงหลายด้าน ความไม่แน่นอนของนโยบายกีดกันการค้า ตลาดการเงินผันผวน
ธนาคารโลกได้เปิดเผยในรายงาน “Global Economic Prospects” เศรษฐกิจโลกมีแนวโน้มขยายตัว 3.1% ในปี 2561 ก่อนที่จะชะลอตัวลงมาอยู่ที่ 3% ในปี 2562 ไม่เปลี่ยนแปลงจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนม.ค.ที่ผ่านมา
ส่วนเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศพัฒนาแล้ว ธนาคารโลกคาดว่าจะขยายตัวเล็กน้อยที่ระดับ 2.2% ในปีนี้ ก่อนที่จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 2% ในปี 2562 เนื่องจากธนาคารกลางหลายแห่งเริ่มถอนมาตรการกระตุ้นทางการเงินอย่างค่อยเป็นค่อยไป
สำหรับเศรษฐกิจในกลุ่มตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนานั้น คาดว่าจะขยายตัวแข็งแกร่งที่ระดับ 4.5% ในปี 2561 ก่อนที่จะขยายตัวขึ้นสู่ระดับ 4.7% ในปี 2562 เนื่องจากประเทศที่ส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ และราคาสินค้าที่มีแนวโน้มปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากปีนี้
สำนักข่าวซินหัวรายงานว่า ธนาคารโลกได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนสู่ระดับ 6.5% เพิ่มขึ้น 0.1% จากตัวเลขคาดการณ์ในเดือนม.ค. แต่คาดว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจในปี 2562 จะชะลอตัวลงเล็กน้อย 6.3% เนื่องจากการคุมเข้มกฎระเบียบและนโยบายเศรษฐกิจมหภาค และคาดว่านโยบายการคลังของจีนจะอยู่ในลักษณะผ่อนคลายน้อยลง
ทั้งนี้ ธนาคารโลกเตือนว่า เศรษฐกิจทั่วโลกกำลังเผชิญความเสี่ยงขาลง มีความเป็นไปได้ที่ตลาดการเงินจะผันผวนมากขึ้น ซึ่งจะส่งผลให้กลุ่มตลาดเกิดใหม่และกลุ่มประเทศกำลังพัฒนาเผชิญกับภาวะอ่อนแอมากขึ้นด้วย
นอกจากนี้ การดำเนินนโยบายในลักษณะกีดกันทางการค้าที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งความไม่แน่นอนด้านโยบาย และความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ ได้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน
ธนาคารโลกระบุว่า ผลการเจรจาการค้ายังคงไม่แน่นอน และมีความเสี่ยงมากขึ้นที่จะนำไปสู่การบังคับใช้มาตรการการค้าที่เข้มงวด เนื่องจากสหรัฐได้ประกาศใช้มาตรการเรียกเก็บภาษีนำเข้าครั้งใหม่ ซึ่งส่งผลให้ประเทศคู่ค้ารายใหญ่ต่างก็พากันออกมาตรการเพื่อตอบโต้
“การปรับขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าที่เกิดขึ้นทั่วโลกในขณะนี้ จะส่งผลกระทบที่รุนแรงอย่างมากต่อการค้าและกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลก นอกจากนี้ การที่ประเทศรายใหญ่หลายแห่งได้เริ่มหันมาใช้นโยบายการค้าในการตอบโต้กันนั้น จะส่งผลกระทบในด้านลบต่อตลาดการเงินและการลงทุนทั่วโลกด้วยเช่นกัน” ธนาคารโลกระบุในรายงาน