SGPมั่นใจกำไรไตรมาส2พุ่งขานรับราคาLPGเพิ่ม20%

“สยามแก๊ส” ยันไตรมาส 2 กำไรพุ่ง หลังราคา LPG เพิ่มขึ้น 87 เหรียญต่อตัน เร่งทำตลาด LPG ในจีนตอนกลาง-เหนือ ดันยอดขายปีนี้โตตามเป้า 3.5 ล้านตัน เดินหน้าลงทุนสร้างโรงอัดบรรจุ LPG เพิ่มอีก 5 โรงปีนี้ พร้อมเจรจาลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ในพม่าอีก 1 แห่ง

นางจินตนา กิ่งแก้ว รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ (SGP) เปิดเผยว่า ไตรมาส 2 ปีนี้ บริษัทจะมีรายได้และกำไรเพิ่มขึ้น เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 76 ล้านบาท เนื่องจากราคาก๊าซหุงต้ม (LPG) เฉลี่ยอยู่ที่ 511 เหรียญสหรัฐต่อตัน เพิ่มขึ้น 87.5 เหรียญสหรัฐต่อตันหรือเพิ่มขึ้น 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีราคาเฉลี่ย 423 เหรียญสหรัฐต่อตัน ส่วนปริมาณการขาย LPG เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในจีนและมาเลเซียฝั่งตะวันตก

“ยอดขาย LPG ช่วงครึ่งปีแรก เราทำได้ครึ่งทางของเป้าหมายแล้ว ส่วนไตรมาส 3 และ4 ปริมาณการขาย LPG จะเพิ่มขึ้น ซึ่งเป็นไปตามวัฏจักร โดยครึ่งปีหลังเรามีแผนเพิ่มการขาย LPG ไปยังตอนกลางและตอนเหนือของจีน เนื่องจากรัฐบาลจีนมีนโยบายลดการใช้ถ่านหิน ทำให้ความต้องการใช้ LPG เพิ่มขึ้น จึงมั่นใจว่ายอดขาย LPG ทั้งปีจะอยู่ที่ 3.5 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 10% จากปีก่อนที่มียอดขาย 3.2 ล้านตัน แม้ว่ายอดขายในประเทศจะทรงตัวก็ตาม”นางจินตนากล่าว

จินตนา กิ่งแก้ว

นางจินตนา กล่าวว่า ปีนี้บริษัทเตรียมงบลงทุน 2,000 ล้านบาท สำหรับซ่อมบำรุงโรงอัดบรรจุ LNG ที่มีอยู่เดิม พร้อมทั้งลงทุนโรงอัดบรรจุ LPG จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ โรงอัดบรรจุ LPG ที่ย่างกุ้ง ประเทศพม่า 1 แห่ง วงเงิน 300 ล้านบาท กำลังการผลิต 1 หมื่นตันต่อเดือน ซึ่งจะเปิดจำหน่าย LPG ต้นปีหน้า โรงอัดบรรจุ LPG ในมาเลเซีย 2 แห่ง คือ ที่ปีนังและที่กัวลาลัมเปอร์ แห่งละ 300 ล้านบาท กำลังการผลิตแห่งละ 5,000 ตันต่อเดือน โดยจะเริ่มจำหน่าย LPG ปลายปีนี้

ส่วนโรงอัดบรรจุ LPG อีก 2 แห่งอยู่ระหว่างการเจรจา ได้แก่ โรงอัดบรรจุที่อินโดนีเซีย ซึ่งขณะนี้ได้จัดซื้อที่ดินไว้แล้ว และโรงอัดบรรจุที่บังกลาเทศ

นางจินตนา กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้าการลงทุนสร้างคลังก๊าซธรรมชาติ (LNG) ที่มาบตาพุด จ.ระยอง บริษัทได้จัดซื้อที่ดินสำหรับเป็นพื้นที่ตั้งคลัง 500 ไร่ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างศึกษาว่าจะลงทุนสร้างคลังขนาดเท่าใด และใช้เงินลงทุนเท่าใด แต่ยังเปิดเผยไม่ได้ โดยมั่นใจว่าการก่อสร้างจะไม่มีปัญหาอะไร เนื่องจากโครงการตั้งอยู่ที่ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) รวมทั้งอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นได้ในการก่อสร้างคลัง LNG ในจีนด้วย

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาเพื่อลงทุนสร้างโรงไฟฟ้าในพม่าอีก 1 แห่ง จากปัจจุบันที่เข้าไปร่วมลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า 2 แห่งในพม่า ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังงานดีเซล กำลังการผลิต 10 MW ที่เพิ่งเดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าเมื่อเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา และโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม กำลังการผลิต 230 MW ซึ่งบริษัทถือหุ้น 36.1% โดยรายได้จากโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง จะเริ่มบันทึกรายได้เข้ามาที่ SGP ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้

“การลงทุนโรงอัดและบรรจุ LPG แห่งใหม่ และการขยายตลาด LPG อย่างต่อเนื่อง เราคาดว่าปีหน้ายอดขาย LPG จะเพิ่มขึ้นจากปีนี้ 15% ร่วมทั้งจะมีรายได้จากส่วนแบ่งกำไรจากการขายไฟฟ้า ส่วนแหล่งเงินในการลงทุน บริษัทมีสภาพคล่องและแหล่งเงินกู้เพียงพอ โดยปัจจุบันหนี้สินต่อทุนของบริษัทอยู่ที่ไม่ถึง 1 เท่า”นางจินตนากล่าว