HoonSmart.com>>บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป เสนอขายหุ้นเพิ่มทุน 45 ล้านหุ้น คาดเข้าเทรด mai 7 ม.ค. 63 ชูจุดแข็งผลงานมีคุณภาพมาตรฐานสากล เตรียมนำเงินขยายสำนักงานใหญ่ ตั้งบริษัทย่อยในต่างประเทศ ลุยลูกค้าในเอเชีย สหรัฐ หนุนรายได้โตก้าวกระโดด
นาย พายุพัด มหาผล กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน และผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุน บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป (YGG) ประกอบธุรกิจออกแบบและจัดทำคอมพิวเตอร์กราฟิกเกี่ยวกับงานโฆษณาภาพยนตร์ ,แอนิเมชัน และเกม เปิดเผยว่า บริษัทฯได้กำหนดราคาเสนอขายหุ้นให้ประชาชนครั้งแรก(IPO) จำนวน 45 ล้านหุ้น ในราคาหุ้นละ 5 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาท โดยจะเปิดให้จองซื้อวันที่ 25-27ธ.ค. 2562 คาดจะเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ในวันที่ 7 ม.ค. 2563 นี้ ในกลุ่มบริการ
นาย ธนัช จุวิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท อิ๊กดราซิล กรุ๊ป (YGG) กล่าวว่า บริษัทฯเตรียมนำเงินไปใช้ขยายอาคารสำนักงานแห่งใหม่ในกรุงเทพฯ และจัดตั้งบริษัทย่อยในต่างประเทศ เพื่อขยายบริการลูกค้าในภูมิภาคเอเชีย และอเมริกา ประเทศแคนนาดา ต้นทุนถูกและได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ระยะแรกจะเข้าผ่านทางตัวแทนของบริษัทฯก่อน รวมถึงศึกษาการหาพันธมิตรจัดตั้งบริษัทย่อยอีกด้วย
“การเข้าระดมทุนใน mai ถือเป็นการสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับธุรกิจทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งตลาดมีมูลค่ามหาศาล ผลงานมีโอกาสการเติบโตอย่างก้าวกระโดด”นาย ธนัชกล่าว
ทางด้านผลงานของบริษัทฯเป็นที่ยอมรับของลูกค้า และเชื่อมั่นในแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่ง ซึ่งที่ผ่านมาได้ส่งมอบงานที่มีคุณภาพมาตรฐานสามารถแข่งขันกับต่างชาติได้ ปัจจุบันบริษัทฯเป็นผู้นำด้านการให้บริการจัดทำคอมพิวเตอร์กราฟิกในไทย และเป็นผู้นำด้าน Digital content อันดับต้นๆของโลก ล่าสุดบริษัทฯได้งานของเน็ตฟลิกซ์ ที่ทำซีรีส์เรื่อง “เคว้ง” ได้ทำ CG ในตอนใหญ่ๆ และหนังฟอร์มยักษ์จากประเทศจีน เรื่อง “นาจา” ที่กำลังจะฉายในเดือนธันวาคมนี้ YGG ก็เป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการผลิต ปัจจุบันบริษัทฯมีงานในมือที่รอทยอยส่งมอบประมาณ 57 ล้านบาท โดยในปี 2563 คาดว่ารายได้จะเติบโต 15-20% มีงานเกมเข้ามาใหม่ รวมถึงมีการรีเทิร์นจากงานโฆษณา ในอนาคตสามารถเติบโตได้อีกมาก
สำหรับโครงสร้างรายได้ ประมาณ 70% มาจากต่างประเทศจีนและญี่ปุ่น ส่วนอีก 30% ในประเทศอีก 30% สัดส่วนมาจากแอนิเมชัน 50% งานโฆษณาภาพยนตร์ 25% และเกม 25% โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2559-2561) บริษัทฯมีกำไรสุทธิ 28.14 ล้านบาท 14.02 ล้านบาท และ 21.09 ล้านบาท ตามลำดับ ขณะที่งวด 9 เดือนแรกของปี 2562 มีกำไรสุทธิ 41.31 ล้านบาท ส่วนใหญ่มาจากเกม