ใครหนอทุบ SUPER

คลุกวงในหุ้น

โดย ….สุนันท์ ศรีจันทรา

HoonSmart.com “เสนอความจริง ทุกการลงทุน” ปีที่ 1 วันที่ 5 มิ.ย.2561

หุ้นบริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์ปอเรชั่น จำกัด(มหาชน)หรือ SUPER กระเตื้องขึ้นแล้ว แม้ว่าการแถลงข่าวของนายประเดช กิตติอิสรานนท์ นักลงทุนขาใหญ่ ผู้ถือหุ้นใหญ่ และนายจอมทรัพย์ โลจายะ ประธานกรรมการบริษัท ยังไม่ได้ให้ความกระจ่างถึงเบื้องหลัง การทุบหุ้น SUPER จนทรุดติดพื้นเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาก็ตาม

บรรยากาศการซื้อขายหุ้น SUPER เมื่อวันจันทร์ แม้ยังมีควันหลงจากความตื่นตระหนกอยู่ จนเกือบจะกลับบ้านเก่าซ้ำสอง เพราะแม้จะเปิดราคากระโดดที่ 1.11 บาท พุ่งขึ้น 7 สตางค์ จากจุดปิดเมื่อวันศุกร์ แต่หลังจากนั้นมีแรงขายกระหน่ำ จนรูดลงสร้างจุดต่ำสุดใหม่ของวัน และเป็นจุดต่ำสุดใหม่ในรอบ 12 เดือนที่ 81 สตางค์ โดยลงไปประมาณ 22%

ท่ามกลางสถานการณ์ที่เลวร้าย ได้มีแรงซื้อเข้ามา ทำให้ราคาดีดกลับ โดยเฉพาะช่วงปลายตลาด ราคาถูกไล่ขึ้นมาปิดที่ 1.09 บาท เพิ่มขึ้น 5 สตางค์ หรือเพิ่มขึ้น 4.81%

วิกฤตหุ้น SUPER คลี่คลายลงแล้ว ส่วนหนึ่งเป็นผลพวงจากการแถลงข่าวของนายจอมทรัพย์และนายประเดช ซึ่งดับความตื่นตระหนกของนักลงทุน แต่ยังไม่อาจเรียกความเชื่อมั่นคนมาเหมือนเดิมได้เพราะนักเก็งกำไรคงรู้สึกแหยง ๆ กับหุ้นตัวนี้

นายจอมทรัพย์อ้างว่า ไม่ได้ขายหุ้นออก แต่เข้าไปซื้อหุ้นจากนายประเดชประมาณ 10% ของทุนจดทะเบียน ผ่านรายการบิ๊กล็อตในราคาประมาณ 1.18 บาทต่อหุ้น และยืนยันว่า การดำเนินงานของบริษัทยังสดใส ไม่มีความจำเป็นต้องเพิ่มทุน

ส่วนนายประเดช อ้างว่า การขายหุ้นให้นายจอมทรัพย์ เพราะต้องการนำเงินชำระหนี้เงินที่กู้มาซื้อหุ้นบริษัท วินด์ เอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้ง จำกัด ซึ่งอยู่ระหว่างแต่งตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ฯ แต่ครอบครัวยังถือหุ้น SUPER อยู่ในสัดส่วนรวมกันประมาณ 8% ของทุนจดทะเบียน

เช่นเดียวกันนักลงทุนขาใหญ่รายนี้ยืนยันไม่ได้ทุบ SUPER แต่ราคาหุ้นที่ทรุดหนักเมื่อวันศุกร์ นายประเดช อ้างว่า มีขบวนการทุบหุ้น จากกลุ่มผู้ได้ประโยชน์จากหุ้นที่ตกต่ำ และมีการทำชอร์ตเซลหุ้นที่ราคา 1.25 บาท แม้หุ้นลงมาที่ระดับ 80 สตางค์ ยังทำชอร์ตเซลต่อ

เมื่อหุ้นกลับขึ้นมา 1.50 บาท จึงพยายามทำให้หุ้นลง เพื่อซื้อคืน เพื่อไม่ต้องแบกรับผลขาดทุน

นอกจากน้นยังมีมาร์เก็ตติ้ง หรือเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด บริษัทโบรกเกอร์แห่งหนึ่ง ปล่อยข่าวในไลน์กลุ่มว่า นายประเดช จะไล่หุ้นไปที่ราคา 1.50 บาท ก่อนจะเทขายทำกำไร เมื่อราคาขึ้นไปที่ 1.50 บาท จึงมีขบวนการขายหุ้นออกมาจำนวนมาก ทำให้ราคาหุ้น SUPER ทรุด และนำไปสู่การตื่นตระหนก เทขายหุ้นของนักลงทุนรายย่อย

นายประเดช ระบุว่า ได้ทำหนังสือถึง สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์(ก.ล.ต.) ขอให้สอบสวนการทุบหุ้น SUPER หาตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษ เพื่อปกป้องผลประโยชน์ผู้ลงทุน

เบื้องหลังหุ้น SUPER ถูกทุบจนแน่นิ่งเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เป็นไปตามที่นายประเดช ตั้งนสมมุติฐานไว้หรือไม่ มีขบวนการทุบหุ้น มีการชอร์ตเซล และมีการปล่อยข่าวลือทุบหุ้นจริงหรือไม่ ???

และใครกันที่กล้า ลองดี กับนายประเดช กับนายจอมทรัพย์ เป็นโจทย์ที่รอคำเฉลย

ความเป็นไปได้ที่ทำให้ SUPER แบนติดดิน อาจเกิดจากการขายหุ้นทิ้งจำนวนมาก ของนายประเดช โดยรายงานการจำหน่ายหุ้นให้ก.ล.ต.ก่อนหน้า จนสัดส่วนการถือหุ้นเหลือต่ำกว่า 5% ของทุนจดทะเบียน ซึ่งไม่จำเป็นต้องรายงานการขายหุ้นต่อก.ล.ต.แล้ว นายประเดชจะทยอยขายหุ้นจนหมดมือก็ไม่มีใครรู้

เมื่อมีแรงขายทะลักเข้าไปในหุ้น SUPER ช่วงเวลาประมาณ 15.00 น.วันศุกร์ จึงอาจนำไปสู่ข่าวลือ ขาใหญ่ทิ้งหุ้น และเป็นชนวนทำให้เกิดรายการขายแบบรุมสกรัม

และหุ้น SUPER ไม่ได้มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งนัก โดยการซื้อขายหุ้นที่คึกคัก เกิดจากการเก็งกำไรระยะสั้นมากกว่า

ราคาหุ้นถูกลากจากราคา 82 สตางค์ ขึ้นม้วนเดียวจนแตะที่ระดับ 1.52 บาท หรือขึ้นมาเกือบ 90% ภายในเวลา 2 เดือน SUPER จึงมีความเปราะบางอยู่แล้ว เมื่อถูกซ้ำเติมด้วยข่าวลือ รายย่อยจึงตื่นขายหนีตาย โดยไม่มีขบวนการทุบหุ้นก็ได้

อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังการดิ่งเหวของหุ้น SUPER ต้องปล่อยให้เป็นหน้าที่ของก.ล.ต.และตลาดหลักทรัพย์ ในการตรวจสอบ แกะรอยจากข้อมูลการซื้อขายในวันที่ 1 มิถุนายนที่ผ่านมา เพื่อให้คำตอบต่อสังคมว่า

มีขบวนการทุบหุ้น SUPER ตามที่นายประเดชกล่าวอ้างจริงหรือไม่ !!!!

SUPER เข้าจดทะเบียนเมื่อวันที่ 19 เมษายน 2548 และเป็นหุ้นที่ร้อนวูบวาบไม่ปกติธรรมดา ตั้งแต่ก่อนเปลี่ยนมือผู้ถือหุ้นใหญ่ เปลี่ยนผู้บริหารแล้ว แม้นายจอมทรัพย์กับนายประเดช จะถือหุ้นใหญ่ แต่พฤติกรรมหุ้นตัวนี้ไม่ได้เปลี่ยน

วันดีคืนดี ราคาหุ้นวูบลงเหมือนคนหมดสติ จนนักลงทุนแทบหมดเนื้อหมดตัว เหมือนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 1 มิ.ย.61

นักลงทุนที่ยังติดหุ้น SUPER อยู่ ต้องคิดแล้วว่า จะเอาอย่างไรดีกับหุ้นตัวนี้ จะถือต่อดีหรือไม่

ส่วนนักลงทุนที่ยังไม่มี SUPER ต้องถามตัวเองว่า พร้อมจะเข้ามาเสี่ยงกับหุ้นตัวนี้หรือไม่ หรือรอหาตัว “ไอ้โม่ง”ที่ทุบหุ้นให้เจอก่อนดีไหม