HoonSmart.com>>สตาร์เฟล็กซ์ เตรียมนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ 19 ธ.ค.ผู้นำผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน ผลดำเนินงาน 9 เดือนปีนี้กำไร 46 ล้านบาท ราคา IPO 3.88 บาท ต่ำกว่าที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ร่วมจัดจำหน่ายประเมินไว้ที่ 5.40-6.48 บาทต่อหุ้น
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กำหนดให้หุ้นบริษัท สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX)จำนวน 410 ล้านหุ้น พาร์หุ้นละ 1 บาท เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์(SET) วันที่ 19 ธ.ค. 2562 กลุ่ม สินค้าอุตสาหกรรม หมวดธุรกิจ บรรจุภัณฑ์ โดยมีบริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส เป็นปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนให้ประชาชนครั้งแรก (IPO) จำนวน 110 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 3.88 บาท
บริษัท SFLEX เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) สำหรับสินค้าอุปโภคและบริโภค ตามคำสั่งซื้อของลูกค้า (Made to Order) โดยแบ่งเป็น 2 รูปแบบ ได้แก่ บรรจุภัณฑ์ประเภทม้วน (Roll Form) และบรรจุภัณฑ์ประเภทซอง (Pre Form Pouch)
บริษัท สตาร์เฟล็กซ์ (SFLEX)รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาสที่ 3/2562 มีกำไรสุทธิ 16 ล้านบาทลดลง 16 ล้านบาท คิดเป็นประมาณ 49% จากระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 32.34 ล้านบาท
ส่วนผลงานรวม 9 เดือนปีนี้ กำไรสุทธิ 46 ล้านบาท ลดลง 71 ล้านบาท คิดเป็น ประมาณ 60% จากที่มีกำไรสุทธิ 117 ล้านบาท เกิดจากรายได้รวม 943 ล้านบาท ลดลง 9.66% จากที่ทำได้จำนวน 1,044 ล้านบาท เนื่องจากรายได้จากการขายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อนจำนวน 933 ล้านบาท ลดลงตามภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง ทำให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง และส่งผลให้ยอดสั่งซื้อสินค้าจากลูกค้าลดลง โดยเฉพาะลูกค้ารายใหญ่ 4 รายแรก ลดลง 12.55% เหลือจำนวน 784 ล้านบาท
นอกจากนั้นอัตรากำไรขั้นต้นก็ลดลงจาก 23.65% เหลือ 17.45% สาเหตุหลักเกิดจากต้นทุนการผลิตที่สูงขึ้น เนื่องจากมีสต็อกวัตถุดิบราคาสูงเหลืออยู่ในขณะที่ราคาวัตถุดิบในตลาดมีแนวโน้มลดลง และในช่วงต้นปี ลูกค้ารายใหญ่บางรายมีการปรับรายการสั่งซื้อสินค้าที่เป็นสินค้าใหม่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ปกติที่เกิดขึ้น และการปรับเปลี่ยนโครงสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อประหยัดต้นทุน เช่น การลดความหนาของฟิล์ม ซึ่งต้องพัฒนาสินค้าในช่วงแรกของเสียจากกระบวนการผลิตจะสูงทำให้ต้นทุนการผลิตจะสูงขึ้นในช่วงแรก รวมถึงในไตรมาส 2 บริษัทเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ที่โรงงาน 2 เกิดต้นทุนค่าแรงทางตรง และค่าโสหุ้ยการผลิตเพิ่มขึ้น รวมถึงอัตราการใช้กำลังการผลิตลดลงจากยอดขายที่ลดลง ส่งผลให้ต้นทุนค่าโสหุ้ยการผลิตคงที่ต่อหน่วยเพิ่มขึ้น
สำหรับผลงานทั้งปี 2561 มีกำไรสุทธิ 136 ล้านบาท ลดลง 10 ล้านบาทหรือ 6.82% จากที่มีกำไรสุทธิ 146 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ นายสมภพ กีระสุนทรพงษ์ กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นเพิ่มทุนบริษัท สตาร์เฟล็กซ์ กล่าวว่า ราคาขายที่ 3.88 บาท เมื่อเปรียบเทียบราคาเป้าหมายที่บริษัทหลักทรัพย์ที่ร่วมจัดจำหน่ายประเมินไว้ที่ 5.40-6.48 บาทต่อหุ้น ถือว่าเป็นระดับราคาที่เหมาะสมกับปัจจัยพื้นฐานและสภาวะของตลาดหลักทรัพย์ในปัจจุบันอย่างมาก