TU ถือหุ้น ‘ธรรมชาติซีฟู้ด รีเทล’ เพิ่มเป็น 65% ขยายตลาดในปท-ตปท.

HoonSmart.com>>ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ขยายธุรกิจค้าปลีกอาหารทะเลในประเทศไทย โดยเพิ่มการถือหุ้นในธรรมชาติซีฟู้ด รีเทล เป็น 65% ในปี 2561 ไทยยูเนี่ยนได้ลงทุนในธรรมชาติซีฟู้ด รีเทล 25.1% และในปีนี้ได้เพิ่มการถือหุ้นอีก 39.9% รวมทั้งสิ้น 65% ตามแผนการลงทุน

นายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ ประธานกรรมการบริหารกลุ่มธุรกิจอาหารแช่แข็งและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป (TU) กล่าวว่า  “ไทยยูเนี่ยนได้ตัดสินใจเข้าลงทุนในธรรมชาติซีฟู้ด รีเทล โดยความร่วมมือทางธุรกิจครั้งนี้จะผสานจุดแข็งของทั้งสองบริษัทได้เป็นอย่างดี ด้วยความเชี่ยวชาญของไทยยูเนี่ยนในด้านอาหารทะเลแช่แข็งและ food service ผนึกกำลังกับทีมธรรมชาติซีฟู้ดที่มีความเชี่ยวชาญในด้านการตลาดและแบรนด์จะช่วยให้บริษัทบรรลุเป้าหมายในการขยายธุรกิจทั้งในประเทศและไปสู่ตลาดต่างประเทศ เช่น ลาว เขมร และจีน เป็นต้น

นอกจากนี้ ผู้บริหารและทีมงานของธรรมชาติ ซีฟู้ด ยังมีความสามารถและประสบการณ์ในการทำธุรกิจค้าปลีกอาหารสด ตลอดจนการทำแบรนด์อาหารทะเลระดับพรีเมียมมามากกว่า 10 ปี ซึ่งนอกจากธุรกิจเดิมของธรรมชาติ ซีฟู้ดแล้ว ทีมบริหารของธรรมชาติ ซีฟู้ด จะนำความเชี่ยวชาญด้านแบรนด์มาช่วยเสริมทัพผลิตภัณฑ์อาหารทะเลของไทยยูเนี่ยนภายใต้แบรนด์คิวเฟรช ไปยังตลาดผู้บริโภคและตลาดคู่ค้า ทำให้เราเข้าถึงผู้บริโภคในทุกๆ ตลาดได้อย่างครอบคลุม”

นายจูเลียน จี เดวี่ส์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธรรมชาติซีฟู้ด กล่าวว่า  “ธรรมชาติซีฟู้ดให้บริการจัดการอย่างมืออาชีพด้านเคาน์เตอร์อาหารทะเลแก่ผู้ประกอบการค้าปลีกของไทย โดยมีเคาน์เตอร์อาหารทะเลให้บริการสินค้าทั้งแบบสดและแบบแช่แข็ง 190 แห่งในประเทศไทย ซึ่งรวมถึงกลุ่มร้านอาหารและเครื่องดื่ม โดยมีแนวคิด 4 รูปแบบ คือ เดอะ ดอค ซีฟู้ดบาร์, เดอะ ล็อบสเตอร์ แล็บ, ซีฟู้ด มหานคร และเดอะ โอเชียน บาร์ ซึ่งมี 18 สาขา เรายังได้ตั้งหน่วยธุรกิจใหม่ที่มุ่งเน้นการให้บริการอาหารทะเลให้กับธุรกิจโรงแรมและร้านอาหารชั้นนำ ตลอดจนร้านอาหารมิชลินสตาร์หลายแห่งในกรุงเทพฯ

นอกจากนี้ เรายังได้เปิดคลังสินค้าที่มีครัวกลาง มีเชฟเทเบิล อุปกรณ์ผลิตและจัดเก็บอาหาร เพื่อช่วยตอบโจทย์วิสัยทัศน์ในการเป็นโซลูชั่นด้านอาหารทะเลให้กับลูกค้า การร่วมมือทางธุรกิจกับไทยยูเนี่ยนจะช่วยให้เราก้าวถึงเป้าหมายในการเป็นที่หนึ่งสำหรับลูกค้าในด้านอาหารทะเล”