PTT-GULF-WHA ยันธุรกิจไปได้สวย ปตท.ยื่นไฟลิ่ง OR ก่อน มิ.ย. 63

HoonSmart.com>>ปตท.- กัลฟ์-ดับบลิวเอชเอ เดินหน้าลงทุน ยันธุรกิจเติบโตระยะยาว  GULF ยันกำไรโต P/E ลดเหลือไม่เกิน 20 เท่าใน 3-4 ปีข้างหน้า  WHA คาดนักลงทุนจีนเข้ามาซื้อที่ดินมากขึ้น

นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. (PTT) เปิดเผยว่า ธุรกิจปิโตรเคมียังคงได้รับกระทบจากเศรษฐกิจโลก ทำให้ความต้องการใช้ลดลงไปมาก กดดันให้ส่วนต่าง (สเปรด) แต่ราคาและส่วนต่างที่ต่ำเกินไป เชื่อว่าจะทำให้การบริโภคกลับมาบ้าง   ส่วนธุรกิจโรงกลั่น ค่าการกลั่นเริ่มฟื้นตัวตั้งแต่ไตรมาส 4/2562

สำหรับธุรกิจอื่น ๆ จะไม่ได้รับผลกระทบ และจะได้ผลดีจากราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวในระดับไม่สูงมาก เช่น บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) จะมีปริมาณสำรองยาวนานขึ้นจากการเข้าซื้อกิจการในช่วงที่ผ่านมา บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ (GPSC) มีการเดินเครื่องผลิตไฟฟ้าเต็มที่ต่อเนื่อง และบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) มุ่งขยายไปยังอินโดจีนอย่างต่อเนื่อง

ส่วนความคืบหน้าการนำบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก (OR) เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย คาดว่าจะยื่นแบบไฟลิ่ง เพื่อเสนอขายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) ใน ไตรมาส 1 ไตรมาส 2 ปี 2563

นายชาญศิลป์ กล่าวว่า กลุ่ม ปตท.ยังคงเดินหน้าลงทุนต่อเนื่อง เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคต โดยตามแผน 5 ปี (ปี 2562-2566) มีงบลงทุนรวม 1.1 ล้านล้านบาท เป็นของปตท.ประมาณ 2 แสนล้านบาท เชื่อว่าจะเริ่มเห็นผลมากขึ้นในปี 2565 และได้ผลชัดเจนในปี 2567 จากโครงการขยายกำลังการการกลั่นตามโครงการพลังงานสะอาด (CFP) ของบริษัทไทยออยล์ (TOP) แล้วเสร็จ

นายสารัชถ์ รัตนาวะดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กัลฟ์ เอ็นเนอร์จี ดีเวลลอปเมนท์ (GULF) กล่าวว่า บริษัทตัดสินใจลงทุนโครงการใดๆ ได้ผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ เพื่อให้ดำเนินการได้อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการลงทุนในต่างประเทศ ส่งผลให้บริษัทมีกระแสเงินสดและกำไรค่อนข้างต่อเนื่อง ทำให้ P/E หุ้น GULF ลดลง เมื่อเปรียบเทียบกับผลประกอบการที่จะเข้ามาใน 3-4 ปีข้างหน้าตามที่คาดการณ์ไว้ ด้วยราคาหุ้นในปัจจุบัน P/E จะเหลืออยู่ที่ 15-20 เท่า ไม่แพงเมื่อเทียบกับ P/E ตลาดหุ้นที่ปัจจุบันอยู่ที่ 17-18 เท่า

“โครงการที่วางแผนลงทุนไว้ใน 10 ปีข้างหน้า ค่อนข้างมีภาพที่ชัดเจน บริษัทสามารถจัดการความเสี่ยงต่างๆได้ ส่วนเรื่องเงินบาทแข็งค่า บริษัทไม่ได้รับผลกระทบ เพราะเป็นการลงทุนโครงการระยะยาว และได้ซื้อฟอร์เวิร์ดไว้ทั้งหมดแล้ว รวมถึงยังได้ขยายออกไปต่างประเทศค่อนข้างมาก ทำให้พอร์ตการลงทุนมีการกระจายความเสี่ยงและมีความสมดุลมากขึ้น”นายสารัชถ์กล่าว

ด้านนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัทและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น (WHA) กล่าวว่า นักลงทุนจีนย้ายออกมาลงทุนในต่างประเทศ น่าจะเห็นภาพที่ดีขึ้นต่อเนื่องในปีหน้า ทำให้ลูกค้านิคมอุตสาหกรรมของบริษัทเปลี่ยนแปลงไป จากเดิมเป็นลูกค้าญี่ปุ่นมากสุด แต่ขณะนี้นักลงทุนจากจีนมาเป็นอันดับ 1 รองลงมาไต้หวัน คิดเป็นสัดส่วนลงทุนรวม 70% ส่วนญี่ปุ่นเข้ามาเป็นอันดับ 3

ขณะเดียวกัน บริษัทวางแผนลงทุน 5 ปี (ปี 2563-2567) ที่ 5.4 หมื่นล้านบาท เป็นการลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยจะเน้นการลงทุนใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่ นิคมอุตสาหกรรม สาธารณูปโภค และโลจิสติกส์ ซึ่งยังมีศักยภาพการเติบโตค่อนข้างมาก