HoonSmart.com>>บล.กสิกรไทยแนะติดตามสถานการณ์การเจรจาการค้า การประชุมโอเปกชี้นำตลาดหุ้น หลังจากต่างชาติขายกดดันหนัก ธนาคารกสิกรไทยคาดเงินบาทเคลื่อนไหวในกรอบ 30.10-30.40 บาทต่อดอลลาร์ฯสัปดาห์หน้า
บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย คาดแนวโน้มหุ้นสัปดาห์ถัดไป (2-6 ธ.ค.) ดัชนีหุ้นมีแนวรับที่ 1,575 และ 1,550 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,605 และ 1,615 จุด ตามลำดับ
ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ สถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน รวมถึงการประชุมโอเปก (5-6 ธ.ค.) ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการ ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตร และอัตราการว่างงานเดือนพ.ย.
ขณะที่ ปัจจัยต่างประเทศที่สำคัญอื่นๆ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 3/2562 (ครั้งสุดท้าย) ของยูโรโซน รวมถึงดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือนพ.ย.ของยูโรโซนและจีน
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวลงเกือบตลอดสัปดาห์ โดยดัชนีปิดที่ระดับ 1,590.59 จุด ลดลง 0.45% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 56,317.65 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.20% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนตลาดหลักทรัพย์ mai ลดลง 0.36% จากสัปดาห์ก่อน มาปิดที่ 318.88 จุด ตามแรงขายของกลุ่มนักลงทุนต่างชาติ จากการปรับน้ำหนักลงทุนของ MSCI ประกอบกับมีแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีน หลังประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้กฎหมายสิทธิมนุษยชนฮ่องกง นอกจากนี้ ความกังวลต่อการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทยเป็นอีกปัจจัยลบของตลาดในช่วงปลายสัปดาห์ด้วยเช่นกัน
สำหรับค่าเงินบาท สัปดาห์ถัดไป (2-6 ธ.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวที่ 30.10-30.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ โดยปัจจัยที่สำคัญ ได้แก่ อัตราเงินเฟ้อเดือนพ.ย.
ส่วนเงินบาทในสัปดาห์ที่ผ่านมายังคงเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในวันศุกร์ (29 พ.ย.) อยู่ที่ 30.22 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 30.19 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (22 พ.ย.)