THRE แย้มกำไรโต 3 ปี ROE 13% บุกไทย-ตปท.

HoonSmart.com>>”ไทยรับประกันภัยต่อ” กวาดบ้านสะอาด  วางแผนโต 3 ปี คาด ROE เพิ่มเป็นเลขสองหลัก  ออกผลิตภัณฑ์ เพิ่มพันธมิตร รุกขยายตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ใช้ AI หนุนธุรกิจ มูลค่าซ่อนอยู่บริษัทลูกเพียบ

โอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ

นายโอฬาร วงศ์สุรพิเชษฐ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ (THRE) เปิดเผยว่า กำไรของบริษัทกลับมาเติบโตอีกครั้งในปีนี้ และจะดียิ่งขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้า (2563-2565) หลังจากจัดทำแผนธุรกิจ เพื่อสร้างรายได้เติบโต 15-20% ต่อปี ขณะที่ค่าใช้จ่ายลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ทำให้มีอัตรากำไรจากการรับประกันมากกว่า 5% และอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น (ROE) มากกว่า 13%  จากปีนี้อยู่ที่ประมาณ 3-4% และเพิ่มเป็น 5-6% ในปี 2563

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกล่าวว่า บริษัทได้ปรับกลยุทธ์รุกตลาดประกันภัยต่อส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น ด้วยการพัฒนาผลิตภัณฑ์และช่องทางใหม่ ๆนำเทคโนโลยี อาทิ AI และ Blockchain เข้ามาปรับใช้กับธุรกิจบริการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงาน ควบคู่ไปกับการขยายความร่วมมือกับกลุ่มเครือข่าย Fairfax และในแต่ละปีบริษัทจะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ไม่ต่ำกว่า 30 โครงการ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์แบบดั้งเดิม และขยายตลาดใหม่ร่วมกันพัฒนากับพันธมิตร

นอกจากนี้บริษัทจะบุกตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น ทั้งธุรกิจประกันภัยต่อและบริการ โดยในกัมพูชาบริษัทได้ลงนามในบันทึกข้อตกลงเบื้องต้น (MOU) จัดตั้งบริษัทเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการอนุมัติจากรัฐบาล ขณะที่ตลาดเวียดนามอยู่ในขั้นตอนสุดท้ายของการสรุปแผนกับพันธมิตร ทั้งนี้ตลาดยังมีโอกาสเติบโตสูงจากผู้บริโภคที่มีความมั่นคั่งเพิ่มขึ้น มีทรัพย์สิน และห่วงใยเรื่องสุขภาพมากขึ้น จึงเข้ามารักษาพยาบาลในประเทศไทย กัมพูชามีการนำรถราคาแพงเข้ามาซ่อมในประเทศไทย

นายโอฬารกล่าวว่า ในปี 2563 บริษัทตั้งเป้าจะมีเบี้ยประกันภัยต่อสุทธิเพิ่มเป็น 3,800 ล้านบาท จากปีนี้น่าจะอยู่ที่ 3,600 ล้านบาท ส่วนสัญญาประกันภัยต่อจากต่างประเทศประมาณ 100 ล้านบาท ค่าใช้จ่ายในการประกันจะลดลง 130 ล้านบาท  ส่วนในปี 2564 ROE จะขยับเป็น 8% จากเบี้ยโตมากกว่า 12% สัญญาประกันภัยจากต่างประเทศประมาณ 150 ล้านบาท หลังจากขยายธุรกิจบริการในฟิลิปปินส์และ รับรู้รายได้จากตลาดอินโดนีเซีย และค่าใช้จายในการประกันภัยลดลง

“เมื่อถึงปี 2565 เราจะเปิดตลาดใหม่ที่มาเลเซีย และขยายบริการในตลาดต่างประเทศที่เปิดไปแล้ว เช่น เวียดนาม กัมพูชา และอินโดนีเซีย ทำให้มีสัญญาประกันภัยต่อจากต่างประเทศไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท เบี้ยประกันภัยโตมากกว่า 15% และ ROE เพิ่มเป็นตัวเลขสองหลัก ขณะที่ค่าใช้จ่ายลดลง ทั้งในส่วนที่เคยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วม รวมถึงประกันที่มีโอกาสขาดทุนแล้วส่งต่อต่างประเทศไปก่อนหน้านี้ ส่วนรายได้มีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากการมีฐานลูกค้าที่มีขนาดใหญ่ 8.6 ล้านคน และจำนวนการให้บริการเคลมมากที่สุดในประเทศไทย “นายโอฬารกล่าว

สำหรับพอร์ตการลงทุน มูลค่า 4,793 ล้านบาท บริษัทยังคงไม่เปลี่ยนแปลงสัดส่วนการลงทุน ที่มีเงินฝาก หุ้นกู้และพันธบัตรรัฐบาลประมาณ 1 ใน 3 ของพอร์ต แม้ว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากจะลดลงก็ตาม เพื่อดูแลไม่ให้เงินต้นได้รับความเสียหาย ขณะที่การลงทุนในหุ้นสามัญ สัดส่วน 28% เป็นการกระจายในหุ้นหลายกลุ่ม อาทิ พลังงาน สื่อสาร อิเล็กทรอนิกส์ ให้เงินปันผลดี ซึ่งพอร์ตโดยรวมยังสร้างอัตราผลตอบแทนที่ดีเฉลี่ย 5.6-5.8% ส่วนในต่างประเทศกำลังศึกษาลู่ทางการลงทุน ขณะเดียวกันบริษัทมีผลตอบแทนจากการลงทุนผ่านการจัดตั้งบริษัทลูก  ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นสูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับต้นทุนที่ลงทุนไปในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา