HoonSmart.com>>รมว.คลังยอมรับหลักการเบื้องต้น กองทุน LTF ใหม่ รวม RMF หักลดหย่อนไม่เกิน 5 แสนบาท/ปี ลงทุนยาว 10-15 ปี รอเสนอเข้าครม.พิจารณาทันสิ้นปีนี้ บล.เอเซียพลัสคาดแรงซื้อของนักลงทุนสถาบันหนุนหุ้นปลายปี หลังจากเข้ามาเก็บ 2 วันรวม 4,200 ล้านบาท ล่าสุดดัชนีบวก 17 จุด
นายอุตตม สาวนายน รมว. กระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า จะสามารถสรุปรายละเอียดการจัดตั้งกองทุนที่จะมาทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) เพื่อเสนอให้ ครม.พิจารณาได้ทันก่อนสิ้นปีนี้ หลักการเบื้องต้น กองทุนใหม่ที่จะมาแทนกองทุน LTF เมื่อคำนวนมูลค่าลงทุนรวมกับการลงทุนในกองทุนเพื่อการเกษียณอายุ (RMF) เพื่อนำไปหักลดหย่อนภาษีจะต้องไม่เกิน 5 แสนบาทต่อปี และจะต้องลงทุนในระยะยาว 10-15 ปี เพราะต้องการเน้นให้มีการออมในระยะยาวมากกว่ากองทุน LTF เดิม
บล.เอเซีย พลัส (ASP) วิเคราะห์การลงทุนของ LTF ว่า หากเป็นตามข้อกำหนดใหม่นี้จริง จะกดดันให้แรงซื้อ LTF ในปีถัดไปลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แต่ยังมีความโชคดีจากในช่วงปี 2563 และ 2564 ไม่มีเม็ดเงิน LTF ที่ครบกำหนดขาย จากการถือครองใหม่ (7 ปีปฎิทิน) ออกมา ทำให้ผู้จัดการกองทุนไม่จำเป็นต้องสำรองเม็ดเงินไว้รองรับการไถ่ถอน ดังเช่นทุกๆ ปีที่ผ่านมา เนื่องจากผู้ที่ซื้อ LTF ปี 2559 มีการครบกำหนดขายได้อีกที่ในปี 2565
สำหรับในช่วงที่เหลือของปี 2562 ในวันที่ 11 – 21 พ.ย.ที่ผ่านมา สถาบันไทยขายสุทธิทุกวัน มูลค่ารวมกว่า 1.55 หมื่นล้านบาท กดดันดัชนีหุ้นลดลง 40 จุด หรือ 2.4% แต่เริ่มเห็นการกลับมาซื้อสุทธิในวันศุกร์ที่ผ่านมา 2,100 ล้านบาท และเชื่อว่าน่าจะมีแรงซื้อจากสถาบันต่อเนื่องในช่วงที่เหลือของปี ช่วยพยุงตลาด เนื่องจากปีนี้เป็นปีสุดท้ายที่กองทุน LTF จะได้สิทธิในการลดหย่อนภาษี ดังนั้นแรงชับเคลื่อนที่มาจากเม็ดเงินลงทุนที่ไหลเข้ามาซื้อ LTF จากนี้ไปจะเหลืออีกเพียง 24 วันทำการ (นับวันนี้) ก่อนสิ้นปี ซึ่งธุรกรรมการซื้อ LTF น่าจะคึกคักขึ้น
“น่าจะเห็นแรงซื้อที่เข้ามากระจุกตัวช่วงท้ายของปี ซึ่งสอดคล้องกับสถิติในอดีตที่แรงซื้อ LTF กว่า 57.3% มักจะกระจุกตัวในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี และแรงซื้อมักจะสูงขึ้นทุกปี โดยปี 2561 เป็นปีที่มียอดซื้อ LTF สูงสุดถึง 7.6 หมื่นล้านบาท “บล.เอเซียพลัสระบุ
ก่อนหน้านี้ ประธานสภาธุรกิจตลาดทุนไทยเปิดเผยว่า LTF ใหม่ อายุถือครองนานขึ้นเป็น ประมาณ 10-15 ปี จากเดิม 7 ปี ลงหุ้นอื่นได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นหุ้นโครงสร้างพื้นฐาน ตามแนวคิดเดิม และรวม RMF แล้วห้ามเกิน 5 แสนบาท/ปี หรือไม่เกิน 30% ของรายได้
ด้านตลาดหุ้นวันที่ 25 พ.ย. ปรับตัวขึ้นตามต่างประเทศ หลังมีความชัดเจนว่าการเจรจาการค้าน่าจะจบลงในเร็วๆนี้ ส่งผลให้มีแรงซื้อหุ้นตัวใหญ่กระจายหลายกลุ่ม และดัชนีหุ้นปิดที่จะจุดสูงสุดของวันระดับ 1,614.80 จุด เพิ่มขึ้น 17.08 จุด หรือ 1.07% แต่มูลค่าซื้อขายปานกลาง 47,292.99 ล้านบาท ด้านนักลงทุนสถาบันเก็บ 2,171 ล้านบาท ต่างชาติซื้อด้วย 1,521 ล้านบาท ส่วนรายย่อยขายทำกำไร 3,716 ล้านบาท