FTREIT ตั้งเป้าปี 63 สินทรัพย์โตทะลุ 4 หมื่นล. ประเดิมซื้อคลังสินค้า “สหไทยฯ” 2 พันลบ.

HoonSmart.com>>กองทรัสต์ FTREIT กางแผนปี 63 ตั้งเป้าซื้อทรัพย์สินเพิ่ม หนุนขนาดกองทุนทะลุ 4 หมื่นล้านบาท รั้งผู้นำกองทรัสต์อุตสาหกรรม-โลจิสติกส์ใหญ่สุดในไทย หลังประเดิมซื้อคลังสินค้าสหไทย พรอพเพอร์ตี้ มูลค่า 2 พันล้านบาท หนุนเติบโต ชี้อัตราผู้เช่าเต็ม 100% รับรู้รายได้ทันที เตรียมเพิ่มทุนประมาณ 3 พันล้านบาท เดือนม.ค.63 นำเงินชำระหนี้ กดหนี้สินต่อทุนลด พร้อมซื้อสินทรัพย์ในอนาคต

นายพีระพัฒน์ ศรีสุคนธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ อินดัสเทรียล รีท แมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (FTREIT) เปิดเผยว่า แผนงานในปี 2563 (ต.ค.2562-ก.ย.2563) บริษัทฯ ตั้งเป้าซื้อทรัพย์สินประมาณ 5,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้มูลค่าสินทรัพย์ของกองมีขนาดใหญ่ขึ้นทะลุ 40,000 ล้านบาท เป็นกองทรัสต์อุตสหากรรมและโลจิสติกส์ใหญ่ที่สุดในไทยได้อย่างต่อเนื่อง

“ประเดิมต้นปีงบประมาณกอง FTREIT ได้เข้าลงทุนทรัพย์สินนอกกลุ่มจากบริษัท สหไทย พรอพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ ซื้อคลังสินค้า 11 อาคาร พื้นที่เช่ารวม 80,000 ตารางเมตร มูลค่าลงทุน 2,000 ล้านบาท ส่งผลให้ขนาดกองเพิ่มขึ้นเป็น 39,099 ล้านบาท จาก 37,000 ล้านบาท ซึ่งคลังสินค้าตั้งอยู่บนที่ดินกว่า 125 ไร่ ซึ่งตั้งอยู่ติดถนนทางหลวงหมายเลข 7 ชลบุรี เป็นอีกทำเลยุทธศาสตร์ด้านอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) อยู่ใกล้ท่าเรือแหลมฉบังและโครงการโลจิสติกส์ พาร์คของกลุ่ม บริษัท เฟรเซอร์ พร็อพเพอร์ตี้ (FPT) และนิคมอุตสาหกรรมสำคัญอีกหลายแห่ง ซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่ 100% ผู้เช่าเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ เช่น น้ำตาลมิตรผลและกลุ่มโลจิสติกส์ เป็นตัน”นายพีระพัฒน์ กล่าว

ส่วนทรัพย์สินที่จะเพิ่มอีกประมาณ 3,000 ล้านบาท จะมาจากกลุ่ม FPT และนอกกลุ่ม ซึ่งการซื้อทรัพย์สินเพิ่มนอกจากทำให้ขนาดกองทุนใหญ่ขึ้นดึงดูดนักลงทุนแล้ว เป็นการเพิ่มรายได้และกระจายความเสี่ยงจากทรัพย์สินไปยังหลายทำเลและมีกลุ่มลูกค้าหลากหลายอุตสาหกรรมมากขึ้น จากปัจจุบันสัดส่วน

นายพีระพัฒน์ กล่าวว่า หลังเข้าซื้อทรัพย์สินจากสหไทย พรอพเพอร์ตี้ฯ ในครั้งนี้ FTREIT จะรับรู้รายได้เข้ากองทันที อีกทั้งสัดส่วนทรัพย์สินที่เป็นกรรมสิทธิ์ (ฟีโฮล) เพิ่มขึ้นเป็น 75% และสิทธิการเช่า (ลีสโฮล) 25% จากเดิมอยู่ที่ 74% และ 26% ตามลำดับและอัตราผู้เช่าเพิ่มขึ้นเป็น 84.6% จาก 83% โดยกลุ่มลูกค้าหลักคือ ญี่ปุ่น 46% รองลงมายุโรป 21% ไทย 15% เอเชีย 14% และสหรัฐ 4% ซึ่งช่วงไตรมาส 4/2562 (เดือนก.ค.-ก.ย.2562) เริ่มเห็นนักลงทุนย้ายฐานการผลิตออกจากจีนเข้ามาในไทย และแนวโน้มต่อเนื่องในไตรมาส 1/2563 (เดือนต.ค.-ธ.ค.2562) ซึ่งลูกค้าจะทยอยเข้ามาทำสัญญาเช่าพื้นที่

สำหรับเงินที่ใช้ในการซื้อทรัพย์สินในครั้งนี้มาจากเงินกู้สถาบันการเงิน ซึ่งทำให้สัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ของ FTREIT สูงขึ้น โดยมีสัดส่วนเงินกู้อยู่ที่ 29% จากเดิม 25% ดังนั้น FTREIT จึงมีแผนจัดโครงสร้างทางการเงิน โดยเพิ่มทุนประมาณ 3,000-3,500 ล้านบาท ซึ่งแจ้งผ่านตลาดหลักทรัพย์แล้วโดยเสนอขายผู้ถือหน่วยลงทุนเดิม คาดว่าจะดำเนินการได้ในเดือนม.ค.2563 เพื่อนำเงินไปชำระหนี้คืน ซึ่งจะทำให้ D/E ลดลง และฉุดสัดส่วนเงินกู้ลดลงเหลือประมาณ 21-22% ซึ่งต่ำกว่าอัตราเฉลี่ยของกองซึ่งจะอยู่ที่ประมาณ 25% ทำให้ FTREIT มีความพร้อมในการเข้าซื้อทรัพย์สินเพิ่มในอนาคต

นางเสาวคุณ ครุจิตร กรรมการ บริษัท สหไทย พรอพเพอร์ตี้ แอนด์ ดีเวลลอปเม้นท์ กล่าวว่า คลังสินค้าที่ขายให้ FTREIT มีจุดเด่นห่างจากท่าเรือแหลมฉบังเพียง 7 กิโลเมตร ทำให้ผู้นำเข้าและส่งออกเข้ามาใช้บริการจนผู้เช่าเต็ม ซึ่งการขายทรัพย์ถือเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การสร้างรายได้และการเติบโตให้กับบริษัท

ด้านนายโสภณ ราชรักษา ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ (ประเทศไทย) หรือ FPT ในฐานะสปอนเซอร์ และเมเนเจอร์กองทรัสต์ FTREIT กล่าวว่า การเข้าซื้อทรัพย์ศักยภาพสูงในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จอีกก้าวในการสร้างการเติบโตให้แก่ผู้ถือหน่วยทรัสต์ FTREIT เพราะด้วยจุดเด่นของที่ตั้งโครงการที่อยู่บนทำเล EEC ซึ่งเป็นยุทธ์ศาสตร์ของภาคอุตสาหกรรมและโลจิสติกส์ของประเทศไทยที่ได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐอย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้กลุ่มสหไทยยังถือเป็นพันธมิตรทางธุรกิจของ FPT โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้มีการร่วมลงทุนเพื่อจัดตั้งบริษัท บางกอก โลจิสติกส์ พาร์ค เพื่อต่อยอดธุรกิจศูนย์กระจายสินค้าใกล้กรุงเทพ รองรับการเติบโตของธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยมั่นใจว่าทรัพย์สินใหม่ของกลุ่มสหไทย จะสามารถสร้างรายได้และการเติบโตให้กับกองทรัสต์ได้อย่างมั่นคง

โครงการดังกล่าวจะใช้ชื่อใหม่ว่า Frasers Property Logistics Center (Laem Chabang3)เนื่องจากตั้งอยู่ใกล้กับโครงการเดิมของกลุ่ม FPT ทั้ง 2 แห่ง ได้แก่Frasers Property Logistics Center (Laem Chabang 1) และ Frasers Property Logistics Park (Laem Chabang 2)พื้นที่เช่าทั้ง 3 โครงการรวมทั้งสิ้นกว่า 269,000 ตารางเมตรซึ่งปัจจุบันมีอัตราการเช่าพื้นที่ในโครงการทั้ง 2 แห่งนี้อยู่ในระดับสูงโดยกลุ่มลูกค้าหลักมาจากประเทศเยอรมันนี อิตาลี สหรัฐอเมริกา ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ประกอบธุรกิจในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ยานต์ยนต์ โลจิสติกส์ และ อุปกรณ์การก่อสร้างนอกจากนี้ยังมีลูกค้าให้ความสนใจที่จะเช่าในพื้นที่คลังสินค้าในบริเวณดังกล่าวอีกเป็นจำนวนมาก

นอกจากนี้การลงทุนเพิ่มของ FTREIT ในครั้งนี้จะส่งผลให้ FPT มีทรัพย์สินภายใต้การจัดการรวมกว่า (AUM) 2.8 ล้านตารางเมตร จากปัจจุบันและคาดว่าจะถึง 3 ล้านตารางเมตรภายในปี 2563

“ถึงแม้ภาพรวมเศรษฐกิจจะเติบโตชะลอจากผลกระทบสงครามการค้า ค่าเงินบาทแข็ง ซึ่งกระทบผู้นำเข้าและส่งออก แต่ภาคอุตสาหกรรมยังเห็นการเคลื่อนย้ายของนักลงทุนต่างชาติที่เข้ามาลงทุนและเช่าคลังสินค้าในไทย แต่ยังคงต้องจับตาสงครามการค้าอย่างต่อเนื่อง”นายโสภณ กล่าว

อ่านข่าว

FPT คาดปี 63 โตแรง รับรู้รายได้ GOLD เต็มปี