หุ้นไทยดูดีทุนนอกทะลัก แบงก์ราคาต่ำดึงดูด ชู GLOBAL เด่นสัปดาห์นี้

HoonSmart.com>>บล.ไทยพาณิชย์เริ่มเห็นเงินทุนไหลเข้าหุ้นไทยเด่นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน ซื้อติดต่อกัน 4 วัน สุทธิ 3,872 ล้านบาทสูงอย่างมีนัยยะ ข้อดี Laggard – แบงก์ราคาต่ำ รอสภาพัฒน์แถลงจีดีพีไตรมาส 3 วันจันทร์นี้  ชู GLOBAL เด่นกำไรผ่านจุดต่ำสุดแล้ว  ส่วนกำไรรวมบจ.ไตรมาส 3/62 ไม่ถึง 2.1 แสนล้านบาท ลดลง 9% 

บล.ไทยพาณิชย์ให้น้ำหนักหุ้นเป็นกลางในสัปดาห์ที่จะถึง (18-22 พ.ย.2562) ต้องจับตาดูว่ากระแสเงินทุนต่างชาติจะมีเข้ามาอย่างต่อเนื่องหรือไม่ หลังจากนักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยเด่นครั้งแรกรอบ 3 เดือน คือซื้อสุทธิ 3,872 ล้านบาทสูงอย่างมีนัยยะ และซื้อติดต่อกัน 4 วันทำการ  แม้ว่าเศรษฐกิจจะยังดูอ่อนแอ แต่ตลาดหุ้นไทยถือว่าค่อนข้างปรับตัวขึ้นน้อยกว่า หรือ Laggard กับตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในโลก ราคาหุ้นขนาดใหญ่อย่างธนาคารอยู่ในระดับที่ค่อนข้างต่ำ จึงเริ่มมีกระแสเงินทุนไหลเข้ามาอีกครั้ง

ปัจจัยสภาพคล่องโลกเป็นส่วนสำคัญต่อการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นโลกและไทย แม้ว่าในเดือนพ.ย. เป็นเดือนที่ทาง MSCI จะเพิ่มสัดส่วนในหุ้นจีน A-Share ในดัชนี MSCI Emerging Market ทำให้ตลาดอื่นๆ จะถูกปรับลดสัดส่วนลง แต่ต่างชาติกลับซื้อสุทธิหุ้นไทย จึงอาจจะไม่น่ากังวลอย่างที่คาด แนะนำให้เพิ่มน้ำหนักสินทรัพย์เสี่ยงอย่างระมัดระวัง และกระจายการลงทุน สินทรัพย์ที่สร้างกระแสเงินสดอย่าง RIETS/IFF น่าสนใจมากขึ้น หลังจากราคาลดลงอย่างต่อเนื่อง สำหรับนักลงทุนที่คาดหวังเงินปันผลในระดับ 4-5%ต่อปี

นอกจากนี้ต้องติดตามสภาพัฒน์แถลงตัวเลข GDP ช่วงไตรมาส 3/2562 ใน วันที่ 18 พ.ย. ขณะเดียวกันยังต้องจับตาทิศทางการแข็งค่าของเงินบาทและภาวะหนี้ครัวเรือนไทยที่ยังทรงตัวในระดับสูง

อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลบริษัทจดทะเบียน (บจ.) รายงานงบไตรมาส 3 /2562 จำนวน 476 บริษัท มีกำไรสุทธิรวม 2.01 แสนล้านบาท หากประกาศครบ กำไรสุทธิรวมไม่น่าจะเกิน 2.1 แสนล้านบาท ลดลงประมาณ 9% จากระยะเดียวกันปีก่อน โดยกลุ่มที่มีกำไรเติบโตทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน( YoY) และไตรมาสก่อนหน้า( QoQ) อย่างมีนัย คือกลุ่มอาหาร-เครื่องดื่ม เช่าซื้อ-ลิสซิ่ง ประกัน และการแพทย์ ส่วนกลุ่มที่มีกำไรสุทธิหดตัวทั้ง YoY และ QoQ อย่างมีนัยฯ คือ กลุ่มปิโตรเคมี, พลังงาน, วัสดุก่อสร้าง, ชิ้นส่วน อิเล็กทรอนิกส์ และขนส่ง

สำหรับหุ้นเด่นในสัปดาห์นี้ เลือกแนะนำหุ้นบริษัท สยามโกลบอลเฮ้าส์ (GLOBAL) เนื่องจากเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกสินค้าเกี่ยวกับที่อยู่อาศัยในไทยผลการดำเนินงานได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา และตั้งแต่ไตรมาส 4 จะเริ่มเห็นกำไรกลับมาเติบโตดีขึ้น ส่วนทั้งปี 2562 แม้กำไรปกติหดตัว 2.7% แต่ในปี 2563 จะพลิกกลับมาสดใส 13.7%  จากอัตรากำไรที่ดีขึ้น หลังผ่านช่วงปรับปรุงสินค้าคงคลังเสร็จสิ้นแล้ว รวมทั้งยังได้รับประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐอย่างต่อเนื่อง ซึ่งพัฒนาเชิงบวกทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นน่าจะดึงดูดความสนใจของนักลงทุนและให้ราคาหุ้น GLOBAL เข้าสู่ภาวะขาขึ้นได้อีกครั้ง

อ่านข่าว

บล.กสิกรให้แนวรับแรก1,590 แนวต้าน 1,615 จุด หุ้นสัปดาห์หน้า