SQ คว้าสัมปทานเหมืองถ่านหินเมียนมา 25 ปี

HoonSmart.com>> “สหกลอิควิปเมนท์” เผยบริษัทร่วมทุนคว้าสัมปทานเหมืองถ่านหินเมียนมา 25 ปี กอดแบ็กล็อกสูง 2.9 หมื่นล้านบาท ทยอยรับรู้รายได้ 9 ปี ด้านผลดำเนินงานไตรมาส 3/62 ขาดทุน 266 ล้านบาท เหตุเป็นช่วงโลว์ซีซั่นธุรกิจ

นายกวิตม์ ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการเงิน บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ (SQ) เปิดเผยว่า บริษัท เมือง ก๊ก เอ็นเนอยี่ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุน ที่บริษัทฯ ถือหุ้นในอัตรา 70% ได้เซ็นสัญญาเป็นผู้รับสิทธิในสัมปทานในการทำเหมืองทั้งหมดในโครงการเหมืองถ่านหิน เมืองก๊ก (Mai Khot Coal Mine) ซึ่งตั้งอยู่ที่รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพ เมียนมาร์ ซึ่งเป็นเหมือง ที่มีขนาดใหญ่ ถึง 13 ตารางกิโลเมตร สำหรับระยเวลาสัญญาเป็นเวลา 25 ปี

สำหรับการคาดการณ์ในเบื้องต้นนั้น คาดว่า มีปริมาณถ่านหิน ทางธรณีวิทยา ประเภทซับบิทูมินัส และลิกไนต์ ประมาณ 100 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่มากเพียงพอ สำหรับใช้เป็นเชื้อเพลิง ของโรงไฟฟ้าขนาดใหญ่ โดยช่วงต่อไปบริษัทจะจัดทำแผนจัดการด้านสิ่งแวดล้อม และสื่อสารชุมชน ก่อนการเข้าทำงานขุดขน ถ่านเชิงพาณิชย์ พร้อม ๆ กับการทำแผนการสำรวจลักษณะ ทางเคมี ปริมาณสำรองถ่านหินใน เขตพื้นที่ประทานบัตรโดยละเอียดควบคู่ไปกับการศึกษาความเป็นไปได้ใน การลงทุนต่อยอดด้านพลังงานในโครงการโรงไฟฟ้าถ่านหิน ซึ่งนับเป็นความก้าวหน้าในการก้าวสู่ การเป็นเจ้าของสัมปทานเหมืองแร่ และธุรกิจพลังงานที่มีความยั่งยืนทางธุรกิจ

ปัจจุบันบริษัทฯ มีปริมาณงานในมือประมาณ 29,000 ล้านบาท รับรู้รายได้ประมาณ 9 ปี แบ่งเป็น งานโครงการเหมืองแม่เมาะ 8 มูลค่าประมาณ 16,966 ล้านบาท, งานโครงการเหมืองหงสา ที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมูลค่าประมาณ 9,118 ล้านบาท

ล่าสุดบริษัทฯ ได้รับงานเพิ่มจากโครงการเหมืองหงสา มูลค่ากว่า 2,265 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างจัดเตรียมเครื่องจักรและอุปกรณ์ โดยมีแผนการทำงานรับรู้รายได้ในเดือนม.ค.2563 ตามกำหนดการเดิม งานโครงการเหมืองแม่เมาะ 7 มูลค่าประมาณ 550 ล้านบาท รวมทั้งสิ้น 28,899 ล้านบาท (ยังไม่รวม งานเหมืองถ่านหิน รัฐฉาน สาธารณรัฐแห่งสหภาพพม่า ซึ่งยังไม่ได้เซ็นสัญญาขุดขนดินและถ่านหิน)

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2562 เป็นฤดูฝนซึ่งเป็นช่วง Low Season ของทุกปี บริษัทฯ ขาดทุนสุทธิ 266 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อนขาดทุนสุทธิ 199 ล้านบาท สาเหตุหลักมาจากต้นทุนน้ำมันและต้นทุนค่าเช่าจากการใช้งานเครื่องจักรในช่วงฤดูฝนที่ไม่ได้ตามแผน ต้นทุนทางการเงินที่เพิ่มขึ้น 10 ล้านบาท และค่าเสื่อมราคาที่เพิ่มขึ้น 18 ล้านบาท จากโครงการเหมืองแม่เมาะ 8 ที่รับรู้เต็มจำนวน

ส่วนงวด 9 เดือนแรก บริษัทฯ มีผลประกอบการที่ดีขึ้น 60% โดยขาดทุนสุทธิลดลงเหลือเพียง 115 ล้านบาท จากขาดทุนสุทธิ 295 ล้านบาทในช่วง 9 เดือนแรกปีของปีก่อน