KTBST ลุ้นหุ้นสัปดาห์นี้ยืนเหนือ 1,650 จุด หวังเจรจาการค้าออกมาดี

HoonSmart.com>> บล.เคทีบี คาดตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ยืนเหนือ 1,650 จุด ลุ้นการเจรจาการค้าสหรัฐฯ และจีนมีทิศทางที่ดี ธนาคารกลางผ่อนคลายนโยบายการเงินหนุนเงินไหลเข้าตลาด แนะเลือกหุ้นกลุ่มใหญ่ที่ได้แรงซื้อและกลุ่มที่ราคาลงไปมาก

ดร.วิน อุดมรัชตวนิชย์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ KTBST เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดหุ้นสัปดาห์นี้ (11-15 พ.ย.) มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในเชิงบวก จากประเด็นเรื่องข้อตกลงทางการค้าของสหรัฐฯ กับจีนที่คาดว่าจะตกลงกันได้ แม้จะมีข่าวว่าประธานาธิบดีทรัมป์ ไม่เห็นด้วยที่สหรัฐฯ จะถอนภาษีสินค้าจีนออกทั้งหมดแต่ก็ไม่เป็นปัจจัยลบต่อตลาด

ภาพรวมของตลาดโลก ยังเชื่อว่าสหรัฐฯ จีนจะสามารถตกลงกันได้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีต่อตลาด ทำให้บรรดาสินทรัพย์เสี่ยงต่ำ เช่น ทองคำ , พันธบัตรรัฐบาล , REIT ปรับตัวลง ขณะที่กระแสเงินลงทุนไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ต่อเนื่อง (MSCI EM +1.5% เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า (WoW) ; MSCI Thailand +3.7% WoW) ขณะที่ราคาทองคำลดลง 3.7% ในช่วงเวลาเดียวกัน ดังนั้น KTBST ประเมินว่าการเจรจาการค้าจะเป็นปัจจัยหลักที่หนุนดัชนีฯ สัปดาห์นี้ให้ขึ้นไปยืนเหนือ 1,650 จุดได้ จากสัปดาห์ก่อนที่ประเมินไว้ที่ 1,640 จุด

ทั้งนี้ การผ่อนคลายนโยบายการเงินของธนาคารกลางที่ทำให้แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของโลกสู่ขาลง โดยทั้งธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) กลับมาใช้นโยบายผ่อยคลายทางการเงิน (QE) ด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ลดดอกเบี้ยเหลือ 1.25% ในส่วนของมาตรการด้านค่าเงินนั้นเป็นการอำนวยความสะดวกในการเคลื่อนย้ายเงินและเป็นบวกต่อตลาดหุ้น เพราะ ธปท. เลือกไม่ใช้นโยบายที่กดดันต่อค่าเงินบาทมากเกินและช่วยเหลือผู้ส่งออก

ส่วนการรายงานกำไรบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 3 นั้น ในวันที่ 14 พ.ย. จะเป็นวันส่งงบการเงินวันสุดท้าย โดยมีบริษัทรายงานกำไรออกมาแล้วจำนวน 167 บริษัท อยู่ที่ 1.15 แสนลบ. -14% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า (YoY); และ -3.0% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า (QoQ) KTBST คาดกำไรทั้งหมดจะออกมาอยู่ที่ 2.1-2.2 แสนล้านบาทโดยพบว่าหุ้นกลุ่มน้ำมัน-ปิโตรเคมี เป็นกลุ่มที่ดึงผลกำไรทั้งหมดของตลาดลดลง แต่อย่างไรก็ตาม ตลาดได้สะท้อนเรื่องนี้ไประดับหนึ่งแล้วคาดว่าราคาจะไม่ลงต่อ

สำหรับกลยุทธ์ลงทุนในสัปดาห์นี้ เนื่องจากกระแสเงินลงทุนกำลังกลับเข้าตลาด นักลงทุนควรเน้นไปที่หุ้นขนาดใหญ่ของตลาดที่คาดว่ามีแรงซื้อต่อเนื่อง และหุ้นที่เคยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าหรือราคาลงมามาก ได้แก่ กลุ่มธนาคาร , ปิโตรเคมี , โรงกลั่นน้ำมัน , อีเล็คทรอนิคส์ , และโรงแรม โดยหุ้นเหล่านี้มีโอกาสปรับตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดราว 20% ประเมินกรอบดัชนีฯที่ 1,625-1,660 จุด หุ้นแนะนำในสัปดาห์นี้ได้แก่ SCC, IRPC, BBL, KCE, CENTEL , CBG , MTC , และ EA