HoonSmart.com>> “พลังงานบริสุทธิ์” มั่นใจปี 62 รายได้-กำไร ทุบสถิติใหม่ หลังไตรมาส 3/62 กำไรโตเกินคาด ลั่นพร้อมเดินหน้าโปรเจครถยนต์ไฟฟ้า-โรงงานแบตฯ ตามแผน พร้อมมองหาลู่ทางลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนแห่งใหม่ หนุนผลงานปี 63 All Time High ต่อเนื่อง โบรกฯ เชียร์ “ซื้อ” หยวนต้าให้เป้า 60.25 บาท นักลงทุนเข้าเก็งกำไรหนุนราคาหุ้นขึ้นสวนตลาดรวมร่วง
นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ (EA) เปิดเผยว่า ผลดำเนินงานไตรมาส 3/2562 ทำกำไรสูงสุดแตะ 1,678.73 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.71% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามแผนการผลิตและส่งมอบรถไฟฟ้า MINE SPA1 ให้กับสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนสุวรรณภูมิพัฒนา จำกัด จำนวน 3,500 คัน ตามที่ทำข้อตกลงกันไว้ โดยจะเริ่มทยอยส่งมอบตั้งแต่ไตรมาส 2/63 โดยโรงงานประกอบรถยนต์ที่บริษัทกำลังก่อสร้าง จะสามารถรองรับการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าทั้งประเภทรถยนต์ไฟฟ้า รถบัสไฟฟ้า และรถบรรทุกไฟฟ้า ซึ่งบริษัทได้จัดตั้งบริษัทย่อยชื่อบริษัท อีวีนาว จำกัด ไว้เรียบร้อยแล้ว
ขณะที่แผนลงทุนในปีนี้ และปี 2563 บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าตามที่ตั้งเป้าหมายไว้ โดยเน้นน้ำหนักไปที่โครงการผลิตแบตเตอรี่ลิเที่ยมไอออนเฟสแรก ขนาดกำลังการผลิต 1 GWh ซึ่งอยู่ระหว่างการดำเนินการ เพื่อนำไปใช้ในโครงการยานยนต์ไฟฟ้าและอุตสาหกรรมไฟฟ้า นอกจากนี้ ยังอยู่ระหว่างการลงทุนสร้างโรงผลิตกรีนดีเซล และพีซีเอ็มที่เป็นผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มขั้นสูงและเป็นลิขสิทธิ์ของกลุ่มบริษัทเอง สามารถส่งออกและทดแทนการนำเข้า โดยเงินที่ใช้สำหรับการขยายการลงทุนในครั้งนี้มาจากกระแสเงินสดของบริษัทฯ และเงินกู้ยืมระยะยาว โดยในส่วนของธุรกิจใหม่ทั้งหมดจะเริ่มรับรู้รายได้อย่างมีนัยสำคัญในปีหน้า ผลักดันให้รายได้และกำไรในปี 2563 เติบโตอย่างต่อเนื่อง
“กำไรที่เติบโตอย่างมีนัยสำคัญในไตรมาส 3/62 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลจากโรงไฟฟ้าพลังงานลม ที่มีกำลังการผลิตใหม่จากโครงการหนุมานเข้ามาเต็มไตรมาสเป็นครั้งแรก ทำให้ผลประกอบการจากไตรมาสนี้ มาจากกำลังการผลิตของโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และโรงไฟฟ้าพลังงานลมรวมทั้งสิ้น 664 เมกะวัตต์ ประกอบกับในไตรมาสนี้ เป็นช่วงฤดูฝนที่มีลมแรง นับเป็นไฮซีซั่นของการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลม ส่วนโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ก็สามารถผลิตไฟฟ้าได้สูงกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน เพราะฝนตกน้อยกว่าปีที่ผ่านมา” นายอมรกล่าว
ด้านบริษัทหลักทรัพย์ (บล.) หยวนต้า (ประเทศไทย) คงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม ปี 2563 ที่ 60.25 บาท คาดโครงการใหม่ ๆ หนุนกำไรปกติทำ New high อย่างต่อเนื่องในปี 2563 รวมทั้งกลุ่มธุรกิจ EA อยู่ในความสนใจที่จะได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ ราคาปัจจุบัน ซื้อขายบนพีอี ปี 2563 เพียง 24.3 เท่า และตั้งแต่ต้นปีปรับตัวขึ้นมาเพียง 5.3% ขณะที่ GULF และ BGRIM ขึ้นมามากถึง 109.8% และ 92.7% ตามลำดับ
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง ระบุว่า EA กำไรสุทธิไตรมาส 3/2562 กว่า 1.68 พันล้านบาท ดีกว่าคาด 12% โต 16% จากไตรมาสปีก่อนและ 32% จากงวดปีก่อน แนะนำซื้อเก็งกำไรราคาเป้าหมาย 57.75 บาท เล่นได้ถึงต้นปีไตรมาส 1/2563 ส่วนนักลงทุนเน้นพื้นฐาน รอเห็น upgrade ก่อน
บล.เอเซีย พลัส แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาะสม 56 บาท โดยเชื่อว่า ราคาหุ้นช่วงที่ผ่านมาได้ผ่านการปรับฐานสะท้อนปัจจัยกระทบต่างๆไปในระดับหนึ่งแล้ว ขณะที่ทิศทางกำไรปกติไตรมาส 4/2562 คาดจะโดดเด่นสุดของปีนี้ และต่อไปยังปี 2563 ที่จะทำ New High อีกทั้งราคาหุ้นก็มี upside
ด้านภาพรวมธุรกิจใหม่ของ EA ยังเดินหน้าต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นโรงงานแบตเตอรี่เฟสแรก 1 GWh ที่กำลังก่อสร้าง คาดแล้วเสร็จตามแผนใน 1H63 (คิดเป็น FV 7 บาท/หุ้น) หลังสัปดาห์ที่ผ่านมา ครม.มีมติให้นิคมฯ BlueTech City ซึ่งเป็นพื้นที่ตั้งโรงงานสามารถเปลี่ยนสีพื้นที่ได้จากสีเขียว (เกษตรกรรม) เป็นสีม่วง (อุตสาหกรรม)
รวมถึงการต่อยอดไปธุรกิจอื่นๆ ซึ่งฝ่ายวิจัยยังไม่รวม upside เหล่านี้ในประมาณการเพื่อรอดูพัฒนาการและรายละเอียดที่ชัดเจนก่อน อาทิเช่น รถยนต์ไฟฟ้า (ส่งมอบรถตั้งแต่ไตรมาส 2/2563), เรือไฟฟ้า 42 ลำ (เริ่มให้บริการครึ่งปีแรกปี 2563 และการต่อยอดธุรกิจไบโอดีเซลไปกรีนดีเซลและสารแปลงสภาพ (PCM) ซึ่งให้รายได้และกำไรที่สูงกว่าเดิม (เฟสแรก 65 ตัน/วัน COD ไตรมาส 2/2563) นอกจากนี้ EA ยังกำลังศึกษาโรงไฟฟ้า Hybrid (โซลาร์+แบตเตอรี่) ในพม่าและเวียดนามกับพันธมิตร
ด้านราคาหุ้น EA ณ เวลา 12.10 น. อยู่ที่ 44.75 บาท ไม่เปลี่ยนแปลง จากระหว่างวันขึ้นไปแตะสูงสุด 45.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.23% สวนตลาดรวมปรับตัวลงกว่า 10 จุด
อ่านข่าว
EA กำไรนิวไฮ 1,679 ลบ.โต 32% ไตรมาส 3/62 ยอดขายทะลุหมื่นลบ. 9 เดือน
