HoonSmart.com>> “โรบินสัน” ไตรมาส 3/62 กำไรสุทธิ 619 ล้านบาท ลดลง 7% จากงวดปีก่อน เหตุยอดขายลด การจับจ่ายใช้สอยผู้บริโภคชะลอตัว ผลกระทบน้ำท่วมบางสาขาในภาคอีสาน ด้านบอร์ดไฟเขียวสนับสนุนทางการเงิน 2 บริษัทร่วม “เพาเวอร์บาย-ซีอาร์ซีสปอร์ต” ร่วมกับ CRC ตามสัดส่วนถือหุ้น วงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท ดอกเบี้ย 2% ส่วนของบริษัทฯ ให้กู้ รวม 4 พันล้านบาท เพื่อปรับโครงสร้างเงินทุน ใช้เป็นแหล่งเงินทุน
บริษัท โรบินสัน (ROBINS) แจ้งผลการดำเนินงานไตรมาส 3 ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 619.06 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.56 บาท ลดลง 6.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 664.44 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.60 บาท
ส่วนงวด 9 เดือน ปี 2562 มีกำไรสุทธิ 1,861.49 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.68 บาท ลดลง 12.2% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 2,120.45 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 1.91 บาท
บริษัทฯ ชี้แจงกำไรสุทธิไตรมาส 3/2562 ลดลงจำนวน 619 ล้านบาท หรือ 6.8% โดยหลักเป็นผลมาจากยอดขายและส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมลดลง โดยมีรายได้รวมจำนวน 7,381 ล้านบาท ลดลง 4.7% โดยหลักมาจากยอดขายลดลง ส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากการจับจ่ายของผู้บริโภคที่ชะลอตัว คู่แข่ง การปรับปรุงสาขาจำนวนนักท่องเที่ยวลดลงและเหตุการณ์น้ำท่วมในบางสาขาที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
ส่วน 9 เดือนปี 2562 กำไรลดลง 12.2% โดยหลักเป็นผลมาจากการบันทึกรายการพิเศษ รับรู้ผลขาดทุนจากเงินลงทุนของบริษัทร่วม 178.4 ล้านบาท สำรองผลประโยชน์เมื่อเกษียณอายุของพนักงาน 49.8 ล้านบาท และค่าใช้จ่ายทางภาษีของบริษัทร่วมทางอ้อม ในประเทศเวียดนาม 37.1 ล้านบาท ทั้งนี้ หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว กeไรสุทธิจะเพิ่มขึ้น 0.3% จาก 9 เดือนแรก ปี 2561
ด้านคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 4 พ.ย.2562 ยังมีมติให้การสนับสนุนทางการเงินตามแผนปรับโครงสร้างเงินทุนแก่บริษัทร่วมตามสัดส่วนการถือหุ้น ได้แก่ บริษัท เพาเวอร์บาย จำกัด (PWB) ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 40% และบริษัท ซี อาร์ ซี สปอร์ต จำกัด (SSP) ซึ่งบริษัทฯ ถือหุ้น 40% ทั้งสองบริษัท ส่วนที่เหลือถือโดยบริษัท ซีอาร์ซี เพาเวอร์ รีเทล (CRC) และบุคคลในตระกูลจิราธิวัฒน์สัดส่วน 60%
สำหรับ PWB บริษัทฯ และ CRC ร่วมวงเงินให้กู้ยืมเงินไม่เกิน 7,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ให้เงินกู้ยืมตามสัดส่วนการถือหุ้น 40% หรือ 2,800 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2.00% ต่อปี (ณ วันที่ 4 พ.ย.2562) ส่วน SSP ให้วงเงินกู้ยืมเงินไม่เกิน 3,000 ล้านบาท โดยบริษัทฯ ให้เงินกู้ยืมตามสัดส่วนที่ถือหุ้น หรือเป็นเงิน 1,200 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ย 2.00% ต่อปี (ณ วันที่ 4 พ.ย.2562)
อนึ่ง ก่อนให้กู้ยืม PWB และ SSP จะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหุ้นก่อน เป็นเงินไม่น้อยกว่า 2,244 ล้านบาท และ 4,866 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งบริษัทฯ จะได้รับเงินปันผลประมาณ 898 ล้านบาท และ 1,946 ล้านบาท ตามลำดับ ตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยเงินปันผลรับสุทธิจาก SSP เท่ากับ 746 ล้านบาท สุทธิจากเงินให้กู้ยืมแก่ SSP โดยหากคำนวณเงินกู้ยืมสุทธิหลังจากเงินปันผลรับจากทั้ง PWB และ SSP แล้วเท่ากับ 1,156 ล้านบาท ซึ่งจะมาจากกระแสเงินสดและวงเงินสินเชื่อของบริษัทฯ
วัตถุประสงค์ในการสนับสนุนทางการเพื่อปรับโครงสร้างเงินทุน ใช้เป็นแหล่งเงินทุนและกระแสเงินสดในการดำเนินธุรกิจของ PWB และ SSP
สำหรับความเห็นของคณะกรรมการบริษัทและคณะกรรมการตรวจสอบในการเข้าทำรายการที่เกี่ยวโยงกัน พิจารณาและอนุมัติการให้การสนับสนุนทางการเงินแก่ PWB เพื่อปรับโครงสร้างเงินทุน ใช้เป็นแหล่งเงินทุน และกระแสเงินสดในการดำเนินธุรกิจ ทั้งนี้ การให้กู้เงินดังกล่าวไม่ส่งผลกระทบกับสถานะทางการเงินและแผนการลงทุนของบริษัทฯ และไม่มีเงื่อนไขใดกระทบต่อสิทธิของผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ แต่อย่างใด
อนึ่ง กรรมการผู้ลงมติอนุมัติรายการนี้ในการประชุมคณะกรรรมการบริษัท ไม่มีกรรมการที่เป็นผู้มีส่วนได้เสีย หรือกรรมการผู้เป็ นบุคคลที่เกี่ยวโยงกันร่วมพิจารณา
ทั้งนี้ CRC อยู่ระหว่างปรับโครงสร้างธุรกิจกลุ่ม ในฐานะผู้ถือหุ้นทางตรงและทางอ้อม ROBINS อยู่ระหว่างทำคำเสนอซื้อหุ้น ROBINS ทั้งหมด ในราคา 66.50 บาท/หุ้น โดยแลกเป็นหุ้น CRC ซึ่งจะเสนอขายประชาชนทั่วไปครั้งแรก (IPO) เตรียมนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในอนาคต
บริษัทหลักทรัพย์เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุว่า ROBINS กำไรสุทธิไตรมาส 3/2562 ต่ำกว่าคาด จากการแข่งขันที่สูง ยังคงคำแนะนำ “ถือ” ราคาเป้าหมายที่ 65.00 บาท ขณะที่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการประกาศทำ share swap ระหว่างหุ้น ROBINS กับหุ้น IPO ของบริษัท Central Retail Corporation (CRC) อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงของบริษัทอยู่ที่การขยายสาขาที่ค่อนข้างน้อยและการแข่งขันสูงขึ้นจากธุรกิจออนไลน์
บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) รอประเมินสัดส่วนการเข้าถือหุ้นใน CRC หลังจาก CRC ได้ยื่นข้อมูลเพื่อขอเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โดย กำหนดราคาสำหรับผู้ถือหุ้น ROBINS ในการเข้าถือครอง CRC ที่ 66.50 บาท ซึ่งมีทางเลือกให้นักลงทุน คือการขายทำกำไรในตลาด ซึ่งปัจจุบันราคาตลาดที่ 66 ค่อนข้างใกล้เคียงกับราคาที่กำหนด หรือการรอแปลงเป็นส่วนหนึ่งของผู้ถือหุ้น ใน CRC ซึ่งต้องรอความชัดเจนของราคาแลกเปลี่ยน โดยคาดกรอบเวลาจะอยู่ในช่วงปลายไตรมาส 4/2562- ไตรมาส 1/2563