KKP Q3 กำไร 1,609 ลบ. โต 3.79% รายได้ดอกเบี้ย -ค่าฟีตลาดทุนเพิ่ม

HoonSmart.com>>ธนาคารเกียรตินาคินเปิดผลงานสวยงาม ไตรมาส 3/62  รายได้ดอกเบี้ยโต 11.8% เป็น 4,696 ล้านบาท ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 1,208  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14%  ส่วนใหญ่เป็นค่านายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ 500 ล้านบาท บล.ภัทร ยังคงเป็นแชมป์โบรกเกอร์  มาร์เก็ตแชร์ 10.59%  วาณิชธนกิจสร้างรายได้ 107 ล้านบาท

ธนาคารเกียรตินาคิน (KKP) เปิดเผยผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/2562 ว่ามีกำไรสุทธิ 1,609 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.79% เมื่อเปรียบเทียบกับกำไรสุทธิ 1,551 ล้านบาทในช่วงเดียวกันของปีก่อน และรวม 9 เดือนแรกของปี 2562 มีกำไรสุทธิ 4,308 ล้านบาท ลดลงจำนวน 306 ล้านบาทคิดเป็น 6.63% จากกำไรสุทธิ 4,614 ล้านบาทในระยะเดียวกันปีก่อน ส่วนธุรกิจตลาดทุน สร้างกำไรจำนวน 402 ล้านบาท ทำให้ธนาคารมีกำไรรวมเบ็ดเสร็จ 1,766 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.5%

กำไรที่ดีขึ้นในไตรมาส 3/62 มาจากรายได้ดอกเบี้ยจำนวน 4,696 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 496 ล้านบาทหรือ 11.8% มาจากเงินให้สินเชื่อ 1,855 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 216 ล้านบาทหรือ 13.2% ตามการขยายตัวของสินเชื่อ 4.2% จากสิ้นปี 2561 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยรับกลับลดลง จาก 7.3% ในไตรมาส 3/2561 ลงมาเหลือ 7% ในไตรมาส 3 เท่ากับไตรมาส 2 และรวม 9 เดือนปีนี้ ส่วนอัตราดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มขึ้นจาก 2.2% เป็น 2.4% ทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยแคบลงเหลือ 4.6% เทียบกับ 5.1%

“สินเชื่อโดยรวมขยายตัว  4.2% จากสิ้นปี 2561 โดยมีการขยายตัวในสินเชื่อเกือบทุกประเภทยกเว้นสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่ยังคงหดตัว  ด้านคุณภาพของสินเชื่อ อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวม ณ สิ้นไตรมาส 3 อยู่ที่ 4.2% คงที่จากสิ้นไตรมาส 2”

นอกจากนี้ธนาคารยังมีรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 1,208  ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14%  จากไตรมาส 3/2561 ที่มีจำนวน 1,059 ล้านบาท โดยหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ที่มีจำนวน 500 ล้านบาท  เพิ่มขึ้นจากจำนวน 377 ล้านบาท รายได้จากค่าธรรมเนียมธุรกิจการจัดการกองทุน 213 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากจำนวน  198 ล้านบาท  ธุรกิจวานิชธนกิจ 107 ล้านบาท ส่วนค่านายหน้าขายประกัน  237 ล้านบาท ลดลง 10% จากไตรมาสเดียวกันของปี 2561 ที่มีจำนวน  263 ล้านบาท ทั้งนี้ บล.ภัทร มีส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่ง สัดส่วน  10.59 % มีรายได้ค่านายหน้า  365 ล้านบาท   ส่วนธุรกิจวาณิชธนกิจมีรายได้ที่ปรึกษาทางการเงิน 8 ล้านบาท  รายได้จากการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์ 54 ล้านบาท และรายได้จากการเป็นตัวแทนในการรับซื้อหลักทรัพย์(เทนเดอร์ออฟเฟอร์) 47 ล้านบาท ส่วนธุรกิจลงทุนสร้างกำไรจำนวน 437 ล้านบาท

ทางด้านผลงาน 9 เดือนปีนี้ ธุรกิจตลาดทุนสร้างกำไรจำนวน 730  ล้านบาท รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ  9,198 ล้านบาท  เพิ่มขึ้น  10.7% รายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ  3,354 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  2.7%  หลักมาจากธุรกิจนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์และวาณิชธนกิจ