KC คดีคืบหน้า ยื่น DSI สอบธุรกรรมตั๋วแลกเงิน 350 ล.

KC แจงความคืบหน้าคดีความ ศาลนัดสืบพยานคดีฟ้องค่าเสียหายกรรมการ 15 ส.ค. กรณีบลจ.โซลาริส นัดทำสัญญายอมความหรือสืบพยาน 7 มิ.ย. ส่วนธุรกรรมตั๋วแลกเงิน 350 ล้านบาทยื่น DSI สอบ พร้อมแก้ปัญหาเพิกถอน นำหุ้นกลับมาซื้อขายใน 1 ปี 3 เดือน

บริษัท เค.ซี. พร็อพเพอร์ตี้ (KC) รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับคดีของบริษัทฯ ว่า คดีฟ้องเรียกร้องค่าเสียหายจากอดีตกรรมการและผู้เกี่ยวข้องในคดีแพ่งของศาลจังหวัดมีนบุรีหมายเลขดำที่พ.586/2560 ระหว่าง บริษัทฯ โจทก์ นายสรรชัย อินทรอักษร ที่ 1 กับพวกรวม 3 คน จำเลย ตามที่ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560 เมื่อวันที่ 7 ธ.ค.2561 มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าทำสัญญาประนีประนอมยอมความกับจำเลยในคดีแพ่งดังกล่าว แต่ปรากฎว่าจำเลยไม่สามารถนำเงินมาวางศาลตามเงื่อนไขที่เสนอในสัญญาประนีประนอมยอมความได้ ศาลจึงดำเนินการสืบพยานในคดีปัจจุบันศาลได้ทำการสืบพยานโจทก์และจำเลยเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 27 เม.ย.2561 และกำหนดนัดฟังคำพิพากษา วันที่ 15 ส.ค.2561

ส่วนคดีผิดนัดชำระหนี้ตามตั๋วแลกเงินกับบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) โซลาริส ในคดีแพ่งของศาลแพ่ง หมายเลขแดงที่มย. 119/2560 ระหว่าง กองทุนเปิดโซลาริสตราสารหนี้พริวิเลจ 3เอ็ม 4 ที่ 1 กับพวกรวม 5ราย โจทก์ บริษัทฯ จำเลย วันที่ 24 พ.ค.2561 ศาลนัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือสืบพยาน โจทก์และจำเลย ซึ่งบริษัทฯ ในฐานะจำเลยได้เดินทางไปศาลตามกำหนดนัดหมายโดยได้แถลงต่อศาลว่าบริษัทฯ ตกลงรับเงื่อนไขตำมสัญญาประนีประนอมที่โจทก์เสนอ

อย่างไรก็ตามบริษัทฯ ได้เสนอเงื่อนไขเพิ่มเติมโดยขอให้บริษัทฯ เข้าทำการพัฒนาที่ดินโฉนดเลขที่ 281087 ตำบลแพรกษา อำเภอเมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ เพื่อเป็นการเพิ่มมูลค่าของหลักประกัน และบริษัทฯ จะได้มีแนวทางการหาเงินมาชำระหนี้แก่โจทก์ ซึ่งโจทก์แจ้งว่าเงื่อนไขที่บริษัทฯ เสนอเพิ่มเติมเป็นเงื่อนไขใหม่จะต้องได้รับการพิจารณาจากคณะกรรมการของโจทก์ก่อน จึงขอศาลเลื่อนคดีเพื่อฟังผลการพิจารณาของคณะกรรมการของโจทก์ ทั้งนี้ ศาลได้เลื่อนนัดทำสัญญาประนีประนอมยอมความหรือสืบพยานโจทก์และจำเลยเป็นวันที่ 7 มิ.ย.2561 เวลา 13.30 น.

ส่วนการดำเนินคดีอาญากับบุคคลที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมตั๋วแลกเงินจำนวน 350 ล้านบาท ของบริษัทฯ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ ครั้งที่ 3/2561 ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 29 ม.ค.2561 มีมติมอบหมายให้ที่ปรึกษากฎหมายบริษัท แอลเอสฮอไรซัน แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษบุคคลที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกรรมตั๋วแลกเงินจำนวนดังกล่าวของบริษัทฯ ต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) โดยให้ดำเนินคดีกับผู้เกี่ยวข้องในกรณีที่เข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 352 มาตรา 353 และมาตรา 354 แห่งประมวลกฎหมายอาญา และที่ปรึกษากฎหมายได้ดำเนินการแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อกรมสอบสวนคดีพิเศษแล้ว เมื่อวันที่ 5 มี.ค.2561 ปัจจุบันคดีอยู่ในขั้นตอนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษดำเนินการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมข้อเท็จจริง

สำหรับแนวทางการแก้ไขปัญหาของบริษัทฯ ซึ่งได้เปลี่ยนแปลงโครงสร้างกรรมการบริษัท ซึ่งเป็นบุคคลที่มีความรู้ ความสามารถหลายครั้ง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้สอบบัญชีได้รับความเห็นชอบ ในการเข้าทำการตรวจสอบงบการเงินของบริษัทฯ โดยคณะกรรมการบริษัทชุดปัจจุบัน มีความตั้งใจที่จะดำเนินการแก้ไขปัญหาของบริษัทฯ และเร่งสรรหาผู้สอบบัญชี เพื่อดำเนินการนำส่งงบการเงินไตรมาสที่ 1 ปี 2560 งบการเงินฉบับอื่นๆ รวมถึงข้อมูลตามมาตรา 56 ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในกรอบระยะเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนด ซึ่งปัจจุบันบริษัทได้มีการติดต่อทาบทามผู้สอบบัญชีหลายรายแต่ติดเงื่อนไขบางประการในการเข้ารับเป็นผู้บริการตรวจสอบบัญชีของบริษัทฯ หากมีความชัดเจนในการสรรหาผู้สอบบัญชีทางคณะกรรมการบริษัทจะเร่งนำเสนอให้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น
พิจารณาอนุมัติแต่งตั้งผู้สอบบัญชีโดยเร็ว

ส่วนแนวทางการดำเนินการเพื่อแก้ไขเหตุแห่งการเพิกถอนหลักทรัพย์ของบริษัทจากการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนนั้น เมื่อวันที่ 5 พ.ค.2561 ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติว่าจ้างผู้ตรวจสอบภายใน (Internal Audit) คือ บริษัท แอค-พลัส คอนซัลแตนท์ เพื่อตรวจสอบระบบควบคุมภายในทั้งหมดของบริษัทฯ และจัดทำคู่มือระบบการควบคุมภายในของบริษัทฯ ให้ถูกต้อง และอนุมัติว่าจ้างที่ปรึกษาทางการเงิน คือ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ ให้คำแนะนำบริษัทฯ โดยคาดว่าระยเวลาที่คาดว่าหลักทรัพย์ของบริษัทฯ จะกลับไปซื้อขายได้ตามปกติภายใน 1 ปี 3 เดือนนับจากวันที่บริษัทฯ ว่าจ้างผู้ตรวจสอบภายใน