โดย…เกศรินทร์ พาราทิพย์เจริญชัย
ผู้อำนวยการอาวุโส หัวหน้าสายงานตราสารอนุพันธ์
บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย)
HoonSmart.com >> ช่วงที่ผ่านมากลุ่มธนาคารถือว่าเป็นกลุ่มที่ปรับตัวลงต่อเนื่องเมื่อเทียบกับหุ้นกลุ่มอื่นๆ โดยได้รับปัจจัยกดดันจากหลายประเด็น เช่น
1) การแข็งค่าของเงินบาท ซึ่งส่งผลให้เม็ดเงินลงทุนไหลออกจากตลาดไปสู่สินทรัพย์ที่มีความปลอดภัยมากขึ้น
2) การปรับลดดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่ส่งสัญญาณถึงการชะลอตัวทางเศรษฐกิจจึงจำเป็นต้องปรับลดดอกเบี้ย เพื่อเป็นการกระตุ้นให้มีเงินหมุนเวียนในระบบมากขึ้น แม้ว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50%
3) การคาดการณ์ผลประกอบการไตรมาส 3/62 ของหุ้นในกลุ่มธนาคารที่นักวิเคราะห์คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 3 จะไม่ค่อยดีนัก
4) การชะลอการลงทุนเพื่อรอความชัดเจนจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน
5) ตลาดชะลอตัวเพื่อรอดูการเข้าเทรดของหุ้น IPO ขนาดใหญ่ อย่าง AWC ส่งผลให้ปริมาณการซื้อขายเบาบางในช่วงสัปดาห์นี้
กลยุทธ์การเทรด DW
Call DW – ชะลอการเข้า Call DW บนหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ หรือ Selective Buy โดยเลือกจากหุ้นอ้างอิงที่ปรับตัวลงจนถึงกรอบแนวรับแล้ว เช่น SCB เป็นต้น ส่วนหุ้นธนาคารขนาดกลาง มีกรอบการซื้อขาย DW ในช่วงแคบๆ ยกตัวอย่างเช่น KKP และ TISCO โดยหากนักลงทุนชอบ DW ที่มี Gearing สูง ขอให้ระมัดระวังเรื่องของ Time decay ส่วนนักลงทุนที่ซื้อ Call เพื่อรอจังหวะหุ้นฟื้นตัวในระยะสั้น ควรเลือก Call DW ที่มีอายุคงเหลือยาว และ time decay ต่ำ เพื่อลดความเสี่ยงหากราคาหุ้นไม่เป็นไปตามคาดการณ์
Put DW – สำหรับหุ้นธนาคารขนาดใหญ่ที่ปรับตัวลงมามากแล้ว นักลงทุนอาจทยอยทำกำไร Put DW บางส่วน และเหลือไว้บางส่วนไว้บริหารความเสี่ยงในช่วงที่ตลาดยังมีแรงกดดัน อย่างไรก็ตาม สำหรับหุ้นอ้างอิงที่เริ่มฟื้นตัว นักลงทุนควรชะลอการลงทุนใน Put DW ที่เกี่ยวข้อง หรือจับจังหวะเทรดในกรอบแคบ เพื่อจำกัดความเสี่ยงในพอร์ตลงทุน
