HoonSmart.com>>ซีอีโอเครือซีพี ตอกย้ำจุดยืนก้าวสู่เป้าหมาย SDGs เดินสายเรียนรู้ประสบการณ์เวทีโลก พร้อมประกาศร่วมสนับสนุนความมั่นคงอาหารและธุรกิจโลกที่ยั่งยืน ผลักดันสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย เป็นกลไกสำคัญขับเคลื่อนประเทศบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนระดับสากล
นายศุภชัย เจียรวนนท์ ประธานคณะผู้บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ พร้อมด้วยผู้บริหารเครือฯ ได้เข้าร่วมประชุมกับผู้นำขององค์การอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (Food and Agriculture Organization of the United Nations-FAO) ในโอกาสที่นาย Qu Dongyu จากจีนได้รับเลือกตั้งเป็น Director General ของ FAO ซึ่งเป็นการหารือกับผู้แทนภาคธุรกิจครั้งแรกหลังเข้ารับตำแหน่ง ในการนี้ นายศุภชัย ได้กล่าวต่อที่ประชุมว่า เครือเจริญโภคภัณฑ์มีความมุ่งมั่นจะใช้ศักยภาพของทุกบริษัทในเครือ ในการส่งเสริมและสร้างความมั่นคงทางอาหารแก่โลก และครอบคลุมถึงเป้าหมายการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนของเครือฯ ด้วย
ทั้งนี้ นายศุภชัย ได้หารือร่วมกับ มร. พอล โพลแมน (Paul Polman) ผู้ก่อตั้งองค์กร Imagine, ประธานร่วมของคณะกรรมการบริหาร UN Global Compact , ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษา One Young World, ประธาน International Chamber of Commerce และอดีตซีอีโอ ของ ยูนิลีเวอร์ โกลบอล และ Mrs. Lise Kingo ซีอีโอและผู้อำนวยการบริหารของ UN Global Compact ซึ่งนายศุภชัย ในฐานะนายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย ได้รายงานความคืบหน้าเกี่ยวกับการจัดตั้งและกิจกรรมของสมาคมฯ ที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของภาคเอกชนไทย มีความสอดคล้องกับหลักการสากลของ UN Global Compact ทั้งสิบประการว่าด้วยสิทธิมนุษยชน แรงงาน สิ่งแวดล้อมและการต่อต้านการทุจริต รวมถึงการส่งเสริมภาคธุรกิจให้ผนึกกำลังเพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Development Goals-SDGs) ได้อย่างแท้จริง โดยเครือซีพีจะเป็นหนึ่งในผู้นำธุรกิจไทยที่จะส่งเสริมและสนับสนุนความยั่งยืนในภาคธุรกิจและสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย พร้อมเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมจัดกิจกรรมฉลองครบรอบ 20 ปีของการตั้ง UN Global Compact ในปี ค.ศ.2020
นอกจากนี้ นายนพปฎล เดชอุดม ประธานคณะผู้บริหารด้านความยั่งยืนองค์กร เครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้เข้าร่วมการประชุม Sustainable Development Impact Summit ที่จัดโดย World Economic Forum (WEF) ครั้งที่ 3 ซึ่งมีผู้แทนกว่า 800 คนจากภาครัฐและภาคธุรกิจทั่วโลกเข้าร่วมหารือ โดยมุ่งเน้น 4 ประเด็นหลักคือ 1.การปรับกลไกตลาดที่คำนึงถึงผลกระทบต่อทั้งมนุษย์และสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (Transforming Markets) 2. ระดมพลังเพื่อป้องกันปัญหาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะการร่วมกันจำกัดไม่ให้อุณหภูมิเฉลี่ยโลกเพิ่มขึ้นสูงกว่า 1.5 องศาเซลเซียส (Accelerating Climate Action) 3.ระดมทุนเพื่อช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (Financing Sustainable Development) และ 4.ระดมกำลังเพื่อสร้างสังคมที่เสมอภาค (Mobilizing Actions for Inclusive Societies) ซึ่งเป็นการประชุมในช่วงเวลาเดียวกับการหารือสุดยอดระดับผู้นำของสหประชาชาติ 3 เรื่อง คือ เรื่องสภาพภูมิอากาศ เรื่องเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนและเรื่องหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
นายนพปฎล กล่าวว่า จากการหารือกับศาสตราจารย์ Klaus Schwab ประธานและผู้ก่อตั้ง WEF ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่เห็นว่า กิจการครอบครัว (Family Business) ที่มีผู้บริหารมืออาชีพ ต้องส่งเสริมเรื่องความยั่งยืนด้วย นอกจากการรักษาให้ธุรกิจสามารถเติบโตต่อไป อีกทั้ง ปีนี้เรื่องที่ได้รับความสนใจมากคือ เรื่อง Circular Economy หรือความพยายามที่จะใช้ผลิตภัณฑ์ให้คุ้มค่าที่สุด จากปัจจุบันที่มีวัสดุทั่วโลกกลับเข้าสู่ระบบ Circular Economy เพียง 9% และขยะพลาสติกทั่วโลกถูกนำมาแปรสภาพเพื่อใช้ใหม่ (recycle) เพียง 10% เท่านั้น
พร้อมกันนี้นายนพปฎล ได้หารือกับผู้แทน Grow Asia และ WEF เพื่อหาแนวทางส่งเสริมเกษตรกรรมที่ยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน และการส่งเสริมผลิตผลทางการเกษตรที่จะช่วยลดผลกระทบต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก อาทิ การผลิตเนื้อสัตว์จากแหล่งอื่น เช่น พืชหรือการเพาะเนื้อเยื่อ (Alternative meat) แทนการเลี้ยงปศุสัตว์ด้วย
นอกจากนี้ นายนพปฎล ได้เข้าร่วมการประชุม SDG Business Forum ซึ่งจัดโดยหอการค้าต่างประเทศ ร่วมกับสหประชาชาติและ UN Global Compact โดยมีผู้แทนจากทั้งภาครัฐและภาคธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจขนาดกลาง ภาคประชาสังคมและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศ เข้าร่วมกว่า 400 คน นายนพปฎล ในฐานะตัวแทนเครือเจริญโภคภัณฑ์ ซึ่งเป็นตัวแทนภาคธุรกิจของไทย ได้ร่วมแลกเปลี่ยนประสบการณ์ ซึ่งหัวข้อการหารือที่สำคัญในปีนี้ ได้แก่ การเงินที่สนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืน (Sustainable Financing)