SCBAM : จับตาความคืบหน้าเจรจาการค้าสหรัฐฯ กับจีน

MARKET INSIGHT
รายงานภาวะตลาด ประจำวันที่ 23 – 27 ก.ย. 2562

• ในสัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นส่วนใหญ่มีความผันผวน โดยมีปัจจัยความเสี่ยงจากสงครามการค้า ส่งผลให้ธนาคารกลางหลายแห่งมีนโยบายการเงินผ่อนคลายมากขึ้น นำโดย Fed ECB และ PBoC นอกจากนั้นความเสี่ยงสงครามทางการค้ามีแนวโน้มลดลง หลังจากนาย Robert Lighthizer (ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ) กับ นาย Liu He (รองนายกรัฐมนตรีจีน) ตกลงว่าจะพบปะกันเพื่อเจรจาทางการค้าที่กรุงวอชิงตันในช่วงต้นเดือนต.ค.นี้

• Fed ปรับลดดอกเบี้ยลง 25bps เป็น 1.75-2.00% ตามตลาดคาด ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ยังคงเติบโตในอัตราที่ชะลอลง และแรงกดดันเงินเฟ้อที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดย Dot plot ชี้ว่า Fed อาจคงดอกเบี้ยที่ระดับปัจจุบันไปจนถึงปลายปี 2020 อย่างไรก็ตามหากสถานการณ์สงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนยังไม่คลี่คลาย Fed อาจใช้นโยบายการเงินผ่อนคลายอีกครั้ง โดย Fed จะลดดอกเบ้ียลงอีก 1 ครั้งในปีน้ีเพื่อรักษาการขยายตัวของเศรษฐกิจ

• จีนดำเนินนโยบายการเงินผ่อนคลาย โดยปรับลดอัตราส่วนเงินกันสำรองขั้นต่ำสำหรับธนาคารพาณิชย์ (RRR) ลง 50bps ในวันที่ 16 ก.ย. ที่ผ่านมา เพ่ือหนุนเศรษฐกิจ ซ่ึง PBoC ประเมินว่าการปรับลด RRR ลงในครั้งน้ีจะช่วยเพิ่มสภาพคล่องในระบบรวมราว 9 แสนล้านหยวน

• ตลาดคาด ECB จะไม่ลดดอกเบี้ยอีกในปีนี้ หลัง ECB ประกาศใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน โดยลด Deposit Rate ลงมาที่ -0.50% ท าให้ Yield ยุโรปเริ่มปรับลดลงมาใกล้ดอกเบ้ียนโยบาย สะท้อนภาพเงินบางส่วนเริ่มไหลกลับสู่ระบบ

• Brexit Deadline อาจถูกเลื่อนออกไปอีกครั้ง หลังสภาอังกฤษมีมติอนุมัติข้อกฎหมายระงับการเกิดเหตุการณ์ No-deal Brexit โดยบังคับให้รัฐบาลอังกฤษตกลงกับ EU เพื่อขอเลื่อนการใช้มาตรา 50 ออกไป หากสภาอังกฤษยังไม่สามารถหาบทสรุปข้อตกลง Brexit ได้ภายในวันท่ี 19 ต.ค. จากความเส่ียงเร่ือง Brexit ท่ียังคงยืดเย้ือส่งผลให้ BoE คงนโยบายการเงินตามที่ตลาดคาด

• ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นกว่า 10% หลังแหล่งผลิตน้ำมันในซาอุดิอาระเบีย 2 แห่งถูกโจมตี ส่งผลให้กำลังการผลิตน้ำมันโลกหายไป 5% หรือหายไปจากระบบกว่า 5.7 ล้านบาร์เรลต่อวันอย่างไรก็ตามสหรัฐฯ และรัสเซีย ออกมาประกาศว่า ยังคงมีน้ำมันเพียงพอที่จะชดเชยส่วนที่หายไปได้ จึงทำให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลงอีกครั้งในวันถัดมา

• แนะนำลดน้ำหลักการลงทุนในหุ้นญี่ปุ่น หลังจากราคาปรับตัวเพิ่มขึ้นมา 7% และภาคการบริโภค รวมถึงภาคการใช้จ่ายอยู่ในระดับต่ า โดยยอดค้าปลีก (Retail Sales) ยังคงปรับตัวลดลงต่อเน่ือง และรัฐบาลจะปรับขึ้นภาษีมูลค่าเพิ่มจาก 8% เป็น 10% ในเดือนต.ค.นี้

• แนะนำลดน้ำหนักการลงทุนในทองคำ เนื่องจากความเสี่ยงทางการเมืองระหว่างประเทศและความตึงเครียดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีนมีท่าทีผ่อนคลายลง

• จับตาการประชุม กนง. ในวันที่ 25 ก.ย. โดยคาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ท่ีอัตรา 1.5% เท่าเดิม แต่อาจส่งสัญญาณ พร้อมปรับลดอัตราดอกเบ้ียนโยบายในอนาคตหากเศรษฐกิจมีความเสี่ยงด้านต่ำเพิ่มขึ้น

กลยุทธ์การลงทุน:
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีน THB เฮ็ดจ์ (SCBCEH) 294.60
“ซื้อ” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นยุโรป (SCBEUEQ)
“ขาย” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ โกลบอล อินฟราสตรัคเจอร์ อิควิตี้ (SCBGIF) 928.00
“ลดน้ำหนักการลงทุน” กองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นญี่ปุ่น (SCBNK225)