พร็อเพอร์ตี้ เพอร์เฟคฟันกำไรขายที่ดินทันที 30 % ปีนี้หวังรายได้พุ่ง 49% ORI จับมือฟัลครัมฯฮ่องกง บุกตลาดต่างประเทศ ตั้งเป้าขาย 3 ปี 15,000 ล้าน ประเดิมปีนี้ 4,000 ล้าน SIRI ร่วมโตคิวฯ เพิ่มลูกค้าญี่ปุ่นกว่าเท่าตัว
นายชายนิด อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ( PF ) เปิดเผยว่า โครงการร่วมทุนยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์ของฮ่องกง กับบริษัท ฮ่องกง แลนด์ ( HKL ) ตั้งบริษัทร่วมทุนชื่อเอชเคแอล เพอร์เฟค (HKL Perfect) สัดส่วนร่วมทุน 51 : 49 เพื่อพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย
นายชายนิด กล่าวว่า บริษัทร่วมทุนพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวระดับบน ราคาตั้งแต่ 20-50 ล้านบาทขึ้นไป เป็นโครงการขนาดใหญ่ ที่ถนนแจ้งวัฒนะ และวงแหวนตะวันออก ทั้ง 2 โครงการมีมูลค่า 1 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะ เปิดขายและรับรู้รายได้ตั้งแต่ต้นปี 2562 เป็นต้นไป
สำหรับที่ดินโครงการบ้านเดี่ยว เป็นแลนด์แบงก์ของ PF ที่มีต้นทุน 1,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคา 5-6 ปีก่อน ต่ำกว่าราคาตลาดขณะนี้เฉลี่ยประมาณ 30 % ซึ่ง PF ขายเข้าบริษัทร่วมทุน เพื่อทำโครงการบ้านเดี่ยวดังกล่าว ส่งผลให้ PF มีกำไรจากส่วนต่างราคาที่ดินทันทีไตรมาส 2 นี้ประมาณ 30 % จากราคาขาย 2,200 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ บริษัท แกรนด์ แอสเสท ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ PF ร่วมทุนกับบริษัท ซูมิโตโม ฟอเรสทรี ( Sumitomo Forestry ) บริษัทยักษ์ใหญ่อสังหาริมทรัพย์และธุรกิจป่าไม้ของประเทศญี่ปุ่น ทำโครงการคอนโดฯระดับบน 2 โครงการคือ โครงการ ไฮด์ เฮอริเทจ อยู่ซอยทองหล่อ เปิดขายปลายปีนี้ และโครงการคอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดขายต้นปี 2562 ทั้ง 2 โครงการมีมูลค่า 1.6 หมื่นล้านบาท
ทางด้านผลการดำเนินงาน กลุ่ม PF ตั้งเป้าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม มีรายได้ 2.4 หมื่นล้านบาท เติบโต 49 % จากปีก่อน ส่วนหนึ่งรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากกำไรการขายที่ดินให้บริษัทร่วมทุน HKL Perfect ขณะที่ไตรมาส 2 ยอดขายประมาณ 4,500 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้การโอนบ้านเดี่ยวและคอนโดมิเนียม
สำหรับ ฮ่องกง แลนด์ เป็นบริษัทอสังหาริมทรัพย์ในฮ่องกง-สิงคโปร์ ที่มีเงินทุนแข็งแกร่งมาก เป็นผู้ถือหุ้น 1 ใน 3 ของ มารีน่า เบย์ ตึกสูงในสิงคโปร์ ถือหุ้นโครงการเกสร พลาซ่า เป็นผู้ร่วมทุนที่เข้าประมูลที่ดินสถานทูตอังกฤษด้วยราคาสูงที่สุดร่วมกับเซ็นทรัลพัฒนา
“ การเป็นพันธมิตรกับฮ่องกง แลนด์ เพื่อขยายการลงทุนโครงการบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ให้กับพร็อพเพอร์ตี้เพอร์เฟค “ นายชายนิด กล่าว
ทั้งนี้ PF มีกำไรไตรมาส 1 จำนวน 195 ล้านบาท เติบโต 150 ล้านบาท หรือ 333 % เทียบช่วงเดียวกันมีกำไร 44.7 ล้านบาท เป็นผลจากรายได้ขายเติบโต 56.7 % มีกำไรขั้นต้นเติบโต 54 %
ทางด้าน บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เปิดเผยถึงการสร้างอาณาจักรออริจิ้น ว่า ในปี 2561 บริษัทมุ่งขยายตลาดต่างประเทศอย่างจริงจัง จึงร่วมกับบริษัท ฟัลครัม โกลบอล ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์นานาชาติสัญชาติฮ่องกง ให้เป็นผู้ลงทุน และผู้บริหารงานขาย โครงการแฟล็กชิพของออริจิ้นในตลาดต่างประเทศแต่เพียงผู้เดียว
“ตั้งเป้ายอดขายในตลาดต่างประเทศในช่วง 3 ปี รวม 15,000 ล้านบาท เฉพาะปีนี้คาดไว้ที่ 4,000 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนยอดขายจากต่างประเทศเป็น 20-25% ของยอดขายรวมภายในปีนี้ที่ตั้งเป้าไว้ 2 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีสัดส่วน 15% ของยอดขายรวม “นายพีระพงศ์กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังมีแผนจะเปิดสำนักงานออริจิ้น สาขาฮ่องกง ซึ่งมีทั้งห้องตัวอย่างกับทางฟัลครัม เพื่อให้บริการลูกค้าและโปรโมทแบรนด์ออริจิ้นในตลาดต่างประเทศ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางมาชมห้องตัวอย่างถึงประเทศไทย
ด้าน นายแฟรงค์ เหลียง กรรมการผู้จัดการ ฟัลครัม โกลบอล กล่าวว่า ฟัลครัมประสบความสำเร็จในการซื้อคอนโดมิเนียมมากกว่า 450 ห้องของโครงการพาร์ค 24 เพื่อขายต่อนักลงทุนต่างประเทศ และร่วมเปิดตัวเซอร์วิสอพาร์ตเมนท์ “The Park at EM District” บริหารโดยดิ แอสคอทท์ ลิมิเต็ด จนเป็นที่สนใจของนักลงทุนอย่างมาก
“คอนโดมิเนียมในประเทศไทยถือเป็นตลาดที่น่าดึงดูดมากในสายตาผู้ซื้อชาวต่างชาติ ที่ผ่านมา มีการประเมินว่าในปี 2560 ผู้ซื้อชาวต่างชาติในอสังหาริมทรัพย์ไทยกว่า 1.2 แสนล้านบาท และคาดว่าจะ เติบโตถึง 40% ในปี 2561 ” นายแฟรงค์ กล่าว
นายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฎิบัติการ บริษัท แสนสิริ (SIRI) เปิดเผยว่า บริษัทฯร่วมทุนกับกลุ่มโตคิว โดยบริษัทฯถือหุ้น 70% ถือหุ้น 30% เพื่อร่วมกันพัฒนาคอนโดมิเนียม 2 โครงการใหม่ทำเลใจกลางกรุงเทพฯ เอกมัย-สุขุมวิท 50 มูลค่ารวมกว่า 5,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทเชื่อว่าการเปิดโครงการใหม่ร่วมกับโตคิวจะช่วยเพิ่ม ยอดขายของลูกค้าชาวญี่ปุ่นเป็น 10% ในปีนี้ จากปัจจุบันอยู่ที่ 3-5% จากยอดขายจากลูกค้าต่างชาติรวม 2.4 หมื่นล้านบาท
ส่วนอัตรากำไรสุทธิปีนี้คาดว่าจะทำได้ใกล้เคียงกับปีก่อนที่ 8.8% หลังจากผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 1 ที่มีอัตรากำไรสุทธิอยู่ที่ 4.1% ไปแล้ว โดยตั้งเป้ายอดโอนคอนโดมิเนียมไว้ที่ 1.5 หมื่นบ้านบาท จากไตรมาส 1 ทำได้เพียง 1 พันล้านบาท