บล.ทิสโก้ชอบ PTTEP มากกว่า PTT

ปตท.สผ.ยันผลงานปีนี้ดีขึ้น ทิสโก้ ชอบ ราคาซื้อขายเหมาะสม มีปัจจัยบวกหนุน ส่วน PTT แพงเกินไป

บริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ปตท.สผ. (PTTEP)ตั้งเป้าปริมาณขายปีนี้ไว้ที่ 3 แสนบาเรล/วัน ส่วนไตรมาส 2 คาดทำได้จำนวน 2.97 แสนบาร์เรล/วัน

ส่วนผลการดำเนินงานในปีนี้ คาดอัตรากำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ยและค่าเสื่อม(EBITDA margin) น่าจะดีขึ้นเป็น 70-75% เทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 70% หลังจากซื้อหุ้นแหล่งบงกชเพิ่ม

ด้านบล.ทิสโก้ วิเคราะห์ว่า PTT มีราคาแพงเกินมูลค่าที่เหมาะสมเทียบกับ PTTEP โดย PTT มีราคาที่ปรับตัวแย่กว่า PTTEP 25% นับตั้งแต่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้นในเดือน เม.ย. หากใช้ราคาตลาดของ PTTEP ที่ 149 บาท จะทำให้ NAV ของ PTT อยู่ที่ 53.8 บาท คิดเป็นดาวน์ไซด์ 6% จากราคาปัจจุบัน

ราคาปัจจุบันของ PTT คิดเป็นราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ 85 ดอลลาร์/บาร์เรล ในขณะที่ P/E ของธุรกิจอื่นๆ ของ PTT นอกตลาดอยู่ที่ราว 10 เท่า และเห็นว่าตลาดมองธุรกิจก๊าซของ PTT ในเชิงบวกมากเกินไปจาก ไตรมาส 1 ที่อ่อนแอ, ต้นทุนก๊าซที่เพิ่มขึ้น, ราคา HDPE ที่อ่อนแอลง และกำลังการผลิตที่คงที่ ทำให้เรามองว่า EBITDA จะลดลง 12% สำหรับปีนี้

สำหรับ PTTEP เชื่อว่าซื้อขายในราคาที่เหมาะสมแล้ว และราคารับรู้การชนะประมูลบ่อบงกชไปแล้ว และคิดเป็นราคาน้ำมัน Brent ที่ 75-80 ดอลลาร์/บาร์เรล หากคาดว่าจะชนะประมูลบ่อบงกชราคาหุ้นปัจจุบันที่ 149 บาท คิดเป็นราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ 76 ดอลลาร์/บาร์เรล และหากไม่ชนะประมูลจะคิดเป็นราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ 78 ดอลลาร์ โดยสมมติฐานราคาน้ำมันของเราอิงราคาน้ำมันดิบ Brent ที่ 64-67 ดอลลาร์/บาร์เรล ในปี 2561-2563 และคาดว่า PTTEP จะชนะประมูลโครงการบงกช

“เราแนะนำถือหุ้นทั้งสองตัว และชอบ PTTEP มากกว่า PTT และมีปัจจัยบวกจากธุรกิจอื่นๆ ที่ไม่ใช่น้ำมัน และการประมูลสัมปทาน ”

ส่วนกรณีภาครัฐเข้ามาอุดหนุนราคาค้าปลีกน้ำมันดีเซล เราไม่ตกใจนัก และ PTT ไม่มีผลกระทบจากการตรึงราคาดีเซลที่ 30 บาท/ลิตรจนถึงเดือน ก.ค. หลังจากนั้นจะปล่อยให้ราคาเป็นไปตามกลไกตลาด