ดาวโจนส์ปิดทรุด 623 จุด สงครามการค้ารุนแรงขึ้น

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดทรุดกว่า 600 จุด สงครามการค้ารุนแรงขึ้น หลัง “ทรัมป์” ตอบโต้จีน สั่งเก็บภาษีสินค้านำเข้าสหรัฐฯ ด้านตลาดหุ้นยุโรปลดลง ราคาน้ำมันร่วง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 23 สิงหาคม 2562 ที่ 25,628.90 จุด ลดลง 623.34 จุด หรือ 2.4% นำโดยหุ้นแอปเปิลที่ลดลง 4.62% หลังจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สั่งบริษัทอเมริกันซึ่งมีฐานการผลิตในจีน ให้หาที่ตั้งการผลิตใหม่ในทันที ซึ่งเป็นการตอบโต้จีน ที่ได้สั่งเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ

ดัชนี S&P 500 ปิดที่ 2,847.11 จุด ลดลง 75.84 จุด,-2.59%)

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,751.77 จุด  ลดลง 239.62 จุด ,-3.0%

ประธานาธิบดีทรัมป์ ทวีตข้อความว่า “บริษัทอเมริกันต้องเริ่มหาฐานธุรกิจใหม่แทนจีนในทันที หรือย้ายบริษัทหรือผลิตสินค้าในสหรัฐฯก็ได้” อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่าอำนาจประธานาธิบดีทรัมป์ในเรื่องนี้มีมากแค่ไหน

การทวีตข้อความของประธานาธิบดีทรัมป์ มีขึ้นหลังจากจีนสั่งเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ รวมน้ำมันและถั่วเหลือง วงเงิน 75,000 ล้านดอลลาร์ ในอัตรา 5-10% โดยแบ่งออกเป็นระยะ ซึ่งระยะแรก มีผลวันที่ 1 กันยายน ระยะต่อไปวันที่ 15 ธันวาคม ซึ่งรอบที่สองนี้ จะเก็บภาษีรถยนต์นำเข้า 25% และเก็บภาษีชิ้นส่วนนำเข้าในอัตรา 5%

ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังได้ทวีตข้อความอีกว่า สหรัฐฯ จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 250,000 ดอลลาร์ เพิ่มจาก 25% เป็น 30% ในวันที่ 1 ตุลาคม ส่วนภาษีที่จะเก็บจากสินค้าวงเงิน 300,000 ล้านดอลลาร์ และมีผลวันที่ 1 กันยายนนี้ จะเพิ่มเป็น 15% แทนที่จะเป็น 10% อีกทั้งจะเพิ่มแรงกดดันให้กับจีน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ต้องการให้จีนปรับเปลี่ยนแนวปฏิบัติในการค้าที่ไม่ยุติธรรม

ในช่วงแรกการซื้อขายตลาดค่อนข้างทรงตัว หลังจากการกล่าวสุนทรพจน์ของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯใ นการประชุมประจำปี ซึ่งระบุว่า เฟดพร้อมจะดำเนินนโยบายอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจ แต่การรับมือกับสงครามการค้า เป็นสิ่งที่ท้าทายในการดำเนินนโยบาย นอกจากนี้เ ศรษฐกิจยังขยายตัวต่อเนื่องมาตลอดกว่า 10 ปี ทำให้เข้าสู่บรรลุเป้าหมายการจ้างงานเต็มที่และการมีเสถียรภาพด้านราคา

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรเกิดภาวะ inverted yield curve อีกครั้ง แต่ทรงตัวตลอดทั้งวัน

ยอดขายบ้านใหม่เดือนกรกฎาคม ลดลง 12.8% มาที่ 635,000 ยูนิต ต่ำกว่าคาดแต่เพิ่มจากปีก่อน 4.3%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ แม้นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ ในการกล่าว สุนทรพจน์ของในการประชุมประจำปี ระบุว่า เฟดพร้อมจะดำเนินนโยบายอย่างเหมาะสมเพื่อรักษาการเติบโตของเศรษฐกิจ เพราะนักลงทุนวิตกต่อสงครามการค้า ระหว่างสหรัฐกับจีน ที่รุนแรงมากขึ้น หลังจากจีนสั่งเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ วงเงิน 75,000 ล้านดอลลาร์ในอัตรา 5-10% มีผลวันที่ 1 กันยายน และวันที่ 15 ธันวาคม

ไฟแนนเชียลไทมส์ รายงานว่า สหภาพยุโรป กำลังพิจารณาจัดตั้งกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ วงเงิน 100,000 ล้านยูโร เพื่อส่งเสริมขีดความสามารถบริษัทชั้นนำของยุโรปให้แข่งขันกับบริษัทอเมริกันรายใหญ่ เช่น แอปเปิลและกูเกิล

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 7,094.98 จุด ลดลง 33.20 จุด,-0.47 %

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 371.36 จุด ลดลง 2.93 จุด, -0.78%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 5,326.87 จุด ลดลง 61.38 จุด, -1.14%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 11,611.51 จุด ลดลง 135.53 จุด, -1.15%

หุ้นดอยช์แบงก์ เพิ่มขึ้น 0.8% หลังจากตกลงที่จะจ่ายเงิน 16 ล้านดอลลาร์ ให้กับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สหรัฐฯ ฐานฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ ว่าด้วยการกระทำอันเป็นการคอร์รัปชั่น ในต่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (Foreign Corrupt Practices Act)

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 1.18 ดอลลาร์ หรือ -2.18% ปิดที่ 54.17 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 58 เซนต์ หรือ -0.98% ปิดที่ 59.34 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล