คลังเห็นด้วย FETCO ชงตั้งกองทุนหุ้นยั่งยืนแทน LTF โบรกฯ ชี้หนุนตลาด

HoonSmart.com>> โบรกฯ มอง FETCO นำเสนอตั้งกองทุนหุ้นยั่งยืน รมว.คลังวันนี้ แทนกองทุน LTF สิ้นสุดอายุภาษีสิ้นปี 62 ผลดีต่อบรรยากาศลงทุนตลาดหุ้น

บริษัทหลักทรัพย์โนมูระ พัฒนสิน (CNS) ประเมินกรณีสภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) เสนอตั้งกองทุนหุ้นยั่งยืน ทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่จะหมดอายุสิทธิทางภาษีลงในปี 62 เบื้องต้นรมว.คลังเห็นด้วย สำหรับหลักกองทุนหุ้นยั่งยืนคล้ายคลึงกับ LTF แต่มีลักษณะเด่นคือ ผู้มีรายได้น้อยถึงกลางจะได้รับสิทธิทางภาษีเพิ่มเป็น 30% ของรายได้ ส่วนยอดรวมซื้อได้ไม่เกิน 2.5 แสนบาท จากเดิม 5 แสนบาท คาดจูงใจผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลางที่ต้องเสียภาษี เข้ามาถือครองหน่วยลงทุนเพื่อลดหย่อนภาษีมากขึ้น เป็นปัจจัยหนุน Sentiment ตลาดหุ้นไทย

ทั้งนี้ นายไพบูลย์ นลินทรางกูร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.ทิสโก้ ในฐานะประธานกรรมการสภาธุรกิจตลาดทุนไทย เปิดเผยภายหลังการหารือร่วมกับนายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ว่า ได้เสนอแนวทางในการจัดตั้งกองทุนหุ้นยั่งยืน (SEF) เพื่อทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว (LTF) ที่จะหมดอายุสิทธิประโยชน์ทางภาษีลงในสิ้นปี 62 เบื้องต้นรมว.คลังเห็นด้วยและขอนำไปพิจารณาต่อ เพราะเป็นครั้งแรกที่ได้มีการนำเสนอรายละเอียด

กองทุนหุ้นยั่งยืนกำหนดแนวทางการลงทุนของกองทุนชัดเจนเบื้องต้น 65% จะต้องลงทุนในหุ้นที่มีความยั่งยืน มีธรรมาภิบาล เป็นต้น และอีกส่วนหนึ่งจะต้องลงทุนในกองทุนที่รองรับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล เช่น กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (TFFIF) ส่วนที่เหลือเปิดให้ลงทุนอิสระ

สำหรับกองทุน SEF จะมีบทบาทในการตอบโจทย์การสนับสนุนการลงทุนของประเทศได้มากขึ้น โดยเฉพาะการสนับสนุนให้เกิดการออมเงินผ่านตลาดทุน ซึ่งได้ผลตอบแทนดี เพื่อให้มีเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ รวมทั้งเป็นการสร้างวินัยในการลงทุนของคนไทยด้วย

นายไพบูลย์ มองว่ากองทุนใหม่จะไม่สร้างภาระที่มากขึ้นให้กับภาคการคลังของประเทศแน่นอน เพราะต้องเข้าใจว่าปัจจุบันคนที่ออมเงินผ่านการลงทุนส่วนใหญ่เป็นคนที่มีรายได้มาก ซึ่งในที่นี้จะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีลดลง

อย่างไรก็ดี ยังได้มีการเสนอให้ทบทวนร่าง พ.ร.บ. กองทุนบำเหน็จบำนาญแห่งชาติ (กบช.) เพื่อให้มีความยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้นในเรื่องการบริหารเงิน ซึ่งเดิมตามกฎหมายเสนอให้มีการตั้งบริษัทขึ้นมาบริหารเงินในส่วนนี้ แต่ภาคเอกชนยังไม่เห็นด้วย และมองว่าควรจะเปิดกว้างในการจัดหาบริษัทที่เข้ามาบริหารเงินได้มากขึ้น ส่วนบริษัทที่มีกองทุนประเภทเดียวกันอยู่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องบังคับให้มี กบช. อีก ซึ่ง รมว.การคลังเห็นด้วยในหลักการ แต่ยังไม่ได้ตอบรับใด