ดาวโจนส์ปิดทรุด 767 จุด หยวนอ่อนค่าต่ำสุดรอบ 11 ปี

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดทรุด 767 จุด หลังจีนตอบโต้สหรัฐฯ เงินหยวนอ่อนค่าต่ำสุดรอบ 11 ปี ตลาดหุ้นยุโรปร่วง ด้านราคาน้ำมันดิบลดลง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 5 สิงหาคม 2562 ที่ 25,717.74 จุด ลดลง 767.27 จุด หรือ 2.90% จากสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่รุนแรงมากขึ้นหลังจากที่จีนตอบโต้การประกาศครั้งล่าสุดของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ที่จะเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 300 พันล้านดอลลาร์ในอัตรา 10% ในวันที่ 1 กันยายนนี้ ด้วยการปล่อยให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงมาต่ำกว่าระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,844.74 จุด ลดลง 87.31 จุด, -2.98%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,726.04 จุด ลดลง 278.03 จุด, -3.47%

เมื่อวานนี้จีนซึ่งปกติจะดูแลค่าเงินหยวนมาตลอดได้ปล่อยให้เงินหยวนอ่อนค่าลงไปที่ระดับ 7.05 เมื่อเทียบกับดอลลาร์ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 11 ปี

ประธานาธิบดีทรัมป์ ทวีตข้อความกล่าวหาว่าจีนปั่นค่าเงิน เป็นการฝ่าฝืนกติกาซึ่งจะมีผลให้จีนอ่อนแอลงในระยะยาว

นอกจากนี้จีนยังได้สั่งระงับการซื้อสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯและอาจจะเรียกเก็บภาษีจากสินค้าเกษตรที่ซื้อไปหลังวันที่ 3 สิงหาคม

นักวิเคราะห์มองว่า ดูเหมือนกับว่าจีนได้ตัดสินใจแล้วว่าการจะกระตุ้นภาคการส่งออกด้วยการปล่อยให้ค่าเงินอ่อนค่า จะยั่วให้ประธานาธิบดีทรัมป์โกรธเคืองได้ และการที่จีนปล่อยให้เงินหยวนไหลไปที่ระดับ 7 หยวนต่อดอลลาร์สะท้อนให้เห็นว่าจีนไม่หวังว่าจะบรรลุข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ

นักลงทุนต่างมุ่งไปที่สินทรัพย์ปลอดภัยส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงมาที่ 1.74% ต่ำสุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2016

การลดลงของตลาดมาจากหุ้นที่ได้รับผลกระทบจากการเรียกเก็บภาษีรอบนี้ตั้งแต่กลุ่มเครื่องแต่งกาย อิเล็กทรอนิคส์ และของเล่นเด็ก นำโดยหุ้นแอปเปิลที่ลดลง 5.2% หุ้นไนกี้ลดลง 2.7% หุ้นเมซี่แอนด์ ลดลง 3.1% หุ้นเบสท์บายลดลง 3.5% หุ้นเฟดเอ็กซ์ลดลง 4%หุ้นแคทเธอพิลลาร์ ลดลง 2.3% หุ้นโบอิ้งลดลง 2.5% หุ้นไมครอนเทคโนโลยี หุ้นสกายเวิร์คโซลูชั่นและหุ้นเอเอ็มดีต่างลดลงอย่างน้อย 4.4%

ไอเอชเอสมาร์กิต เผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นมาที่ระดับ 53.0 จาก 51.5 ในเดือนมิถุนายน

สถาบันจัดการด้านอุปทานเผยผลสำรวจ ดัชนีภาคบริการเดือนกรกฎาคมลดลงมาที่ระดับ 53.7 จาก55.1 ในเดือนก่อนหน้า และเป็นระดับต่ำสุดรอบ 3 ปี

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงแรง นักลงทุนวิตกต่อความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนที่ทวีความรุนแรงมากขึ้นหลังจากที่จีนปล่อยให้ค่าเงินหยวนอ่อนค่าลงไปที่ระดับต่ำกว่า 7 หยวนต่อดอลลาร์เป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี

นอกจากนี้ข้อมูลเศรษฐกิจในยูโรโซนไม่สดใส โดยไอเอชเอส มาร์กิตเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการเดือนกรกฎาคมของสเปนลดลง แต่การจ้างงานเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดรอบ 32 เดือนในเดือนมิถุนายน

ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการเดือนกรกฎาคมของอิตาลีเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดแต่ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการเดือนกรกฎาคมของฝรั่งเศสลดลงจากระดับสูงสุด และดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการเดือนกรกฎาคมของเยอรมนีลดลงมาที่ระดับต่ำสุดในรอบกว่า 6 ปี

ในอังกฤษดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อภาคบริการเดือนกรกฎาคมเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาที่ 51.4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดรอบ 9 เดือน แต่ยังต่ำกว่าค่าเฉลี่ยระยะยาวที่ 54.9

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,223.85 จุด ลดลง 183.21 จุด,-2.47%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 369.43 จุด ลดลง 8.72 จุด,-2.31%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,241.55 จุด ลดลง 117.44 จุด,-2.19%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 11,658.51 จุด ลดลง 213.93 จุด,-1.80%

หุ้นเอชเอสบีซี 2% แม้กำไรครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้น 16% หลังนายจอห์น ฟลิ้นท์ ประกาศลาออก

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 97 เซนต์ ปิดที่ 54.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 2.08 ดอลลาร์ปิดที่ 59.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล