ดาวโจนส์ปิดร่วง 280 จุด ทรัมป์เก็บภาษีสินค้าจีน 10%

HoonSmart.com>> ดัชนีดาวโจนส์ปิดร่วง 280 จุด กังวลทรัมป์เก็บภาษีสินค้าจีน 10% ด้านตลาดหุ้นยุโรปส่วนใหญ่บวกรับกำไรบจ.สดใส ราคาน้ำมันดิบดิ่งแรง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (Dow Jones Industrial Average:DJIA) ปิดตลาดวันที่ 1 สิงหาคม 2562 ที่ 26,583.42 จุด ลดลง 280.85 จุด หรือ 1.05% ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนหลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ประกาศเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% ขณะที่ทั้งสองประเทศกำหนดจะเจรจาการค้าครั้งต่อไปในเดือนกันยายนหลังการเจรจาครั้งล่าสุดที่เสร็จสิ้นลงในวันที่ 31 กรกฎาคมไม่มีข้อสรุป

ประธานาธิบดีทรัมป์ทวีตข้อความว่า สหรัฐฯจะเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 300 พันล้านดอลลาร์ในอัตรา 10% โดยจะผลในวันที่ 1 กันยายนนี้ และหลังจากจะเพิ่มเป็น 25%

ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,953.56 จุด ลดลง 26.82 จุด, -0.90%

ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 8,111.12 จุด ลดลง 64.30 จุด, -0.79%

ในช่วงแรกของการซื้อขายตลาดปรับตัวขึ้นด้วยความหวังว่าธนาคารกลางจะปรับลดดอกเบี้ยลงอีกในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในเดือนกันยายน ขณะที่นักวิเคราะห์มองว่าความเป็นไปได้ที่เฟดจะลดดอกเบี้ยอยู่ในเดือนตุลาคม

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 10 ปีลดลงไปที่ 1.892% ต่ำสุดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2016 ส่วนอัตราผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 2 ปีลดลงไปที่ 1.752%

หุ้นแอปเปิลซึ่งรอดพ้นผลกระทบทางภาษีมาได้หลายครั้งกลับลดลง 2.2% ก่อนหน้านี้ในวันที่ 17 มิถุนายนบริษัทได้บอกกับนายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯว่า การเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 300 พันล้านดอลลาร์นี้จะมีผลครอบคลุมสินค้าทุกประเภทของแอปเปิล

หุ้นไนกี้ลดลง 3.4%

หุ้นเจนเนอรัล อิเลกทริคลดลง 3.54% แม้ผลการดำเนินงานดีกว่าคาด

สถาบันจัดการด้านอุปทาน(ISM) เผยดัชนีภาคการผลิตเดือนกรกฎาคมลดลงมาที่ระดับ 51.2 จาก 51.7 เดือนมิถุนายน ขณะที่ไอเอชเอส มาร์กิตเผยผลสำรวจดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI) เดือนกรกฎาคมลดลงมาที่ระดับ 50.4 ต่ำสุดตั้งแต่เดือนกันยายน 2009

กระทรวงแรงงานเผยการยื่นรับสวัสดิการว่างงานครั้งแรกในสัปดาห์ก่อนเพิ่มขึ้น 8,000 รายเป็น 215,000 ราย ส่วนกระทรวงพาณิชย์เผย ภาคการก่อสร้างเดือนมิถุนายนลดลง 1.3%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกด้วยผลประกอบการที่สดใสของบริษัทจดทะเบียน และฟื้นตัวจากที่ลดลงในช่วงแรกของการซื้อขาย นำโดยหุ้นกลุ่มการเงินที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น 2.2% หลังจากธนาคารกลางสหรัฐไม่ได้ส่งสัญญานลดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางอังกฤษ(Bank of England)มีมติเป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ 0.75%และปรับลดคาดการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจลง ท่ามกลางความกังวลต่อการถอนตัวของจากสหภาพยุโรปและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

โดยปรับคาดการณ์เติบโตเศรษฐกิจปี 2019 และปี 2020ลงมาที่ 1.3% จาก 1.5% และ 1.6% ตามลำดับ

ไอเอชเอส มาร์กิตไอเอชเอส มาร์กิตเผย ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ(PMI)อังกฤษ เดือนกรกฎาคมทรงตัวที่ 48.0 จากเดือนก่อนซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 6.5 ปี ส่วนดัชนีภาคการผลิตเดือนกรกฎาคมลดลงมาที่ระดับ 47.0 ต่ำสุดตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2012 ซึ่งเป็นช่วงที่ยุโรปประสบปัญหาวิกฤติหนี้

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,584.87 จุด ลดลง 1.91 จุด,-0.03%

ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 387.68 จุด เพิ่มขึ้น จุด,+0.50%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,557.41 จุด เพิ่มขึ้น 38.52 จุด,+0.70%

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,253.15 จุด เพิ่มขึ้น 64.11 จุด,+0.53%

กำไรไตรมาส 2 สูงกว่าที่คาด ส่งผลให้หุ้นโซซิเอเต้ เจนเนอรัลในฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 5.7% หุ้นบาร์เคลย์ในอังกฤษเพิ่มขึ้น 1.3% หุ้นไอเอ็นจีในเนเธอร์แลนด์ลดลง 2.3% หลังแจ้งว่าอัตราดอกเบี้ยต่ำจะกดดันผลการเนินงานในอนาคต แม้กำไรไตรมาสสองดีกว่าคาด

หุ้นโรยัล ดัทช์เชลล์ลดลง 4.9% หลังกำไรไตรมาสสองตกต่ำในรอบ 30 เดือนจากราคาน้ำมันดิบที่ต่ำและราคาก๊าซธรรมชาตและค่าการกลั่นต่ำกว่าคาด

ราคาน้ำมันดิบ WTI งวดส่งมอบเดือนกันยายนลดลง 4.63 ดอลลาร์หรือ 7.9% ปิดที่ 53.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์ ส่วนราคาน้ำมันดิบ Brent ทะเลเหนือ งวดส่งมอบเดือนตุลาคมลดลง 4.55 ดอลลาร์หรือ 6.99%ปิดที่ 60.50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลล์