HoonSmart.com>>ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป ประเดิมแจ้งผลงานไตรมาส 2/2562 กำไรโต 5% รายได้ดอกเบี้ยและไม่ใช่ดอกเบี้ยลดลง ไทยพาณิชย์ มั่นใจสินเชื่อรายย่อยปีนี้โตตามเป้า 20% รัฐบาลหนุนความเชื่อมั่นกระตุ้นจับจ่าย ส่วนสินเชื่อบ้านคาดทรงตัว
บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป (TISCO) เปิดผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2/2562 มีกำไรสุทธิ 1,798 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89 ล้านบาทหรือ 5.20% กว่าระยะเดียวกันปีก่อนที่มีกำไร 1,709 ล้านบาท รวม 6 เดือน มีกำไรสุทธิ 3,527ล้านบาท โต 1.49% จากระยะเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 3,475,244 ล้านบาท
กำไรที่ดีขึ้นมาจากการตั้งสำรองหนี้ลดลง 79.1% ส่วนหนึ่งเกิดจากคุณภาพหนี้ที่ดีขึ้น รายได้ดอกเบี้ยลดลง 2.2% เกิดจากส่วนต่างดอกเบี้ยลดลงจาก 5% เหลือ 4.8% จากการโอนขายสินเชื่อส่วนบุคคลในไตรมาส 2/2561 และรายได้ดอกเบี้ยที่ไม่ใช่ธุรกิจหลักลดลง 1.7% ทั้งนี้ บริษัทยังคงรักษาอัตราผลตอบแทนต่อส่วนผู้ถือหุ้นที่ 19.1%
นางอภิพันธ์ เจริญอนุสรณ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB) เปิดเผยว่า แนวโน้มของสินเชื่อรายย่อยของธนาคารในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะเติบโตได้ กว่าครึ่งปีแรกที่เติบโตราว 10% ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาลและคาดว่ารัฐบาลจะเดินหน้าผลักดันนโยบายและการลงทุนโครงการขนาดใหญ่ออกมา ทำให้ความเชื่อมั่นกลับมาฟื้นตัวดีขึ้น มีเม็ดเงินกระจายเข้าไปในทุกภาคส่วน ส่งผลให้กำลังซื้อเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ธนาคารวางกลยุทธ์ในการขยายการให้บริการด้านดิจิทัลผ่าน Mobile Banking ในแอพลิเคชั่น SCB EASY ปัจจุบันมีผู้ใช้บริการ เกือบ 10 ล้านราย และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 19 ล้านรายในสิ้นปีนี้ ซึ่งได้ปล่อยสินเชื่อผ่านช่องทาง SCB EASY และมีผู้สมัครใช้บริการเป็นจำนวนมาก ทำให้ยอดการปล่อยสินเชื่อในส่วนของ Digital Lending เติบโตได้เกินเป้าหมายของธนาคารที่ตั้งไว้
ล่าสุดธนาคารได้ร่วมกับพันธมิตรสตาร์อัพชั้นนำ GOJEK และ GET เชื่อว่าจะทำให้ธนาคารสามารถขยายฐานลูกค้าที่ใช้บริการสินเชื่อรายย่อยผ่านฐานข้อมูลของพันธมิตร เช่น กลุ่มวินมอเตอร์ไซด์ที่เป็นผู้ให้บริการผ่าน GET ราว 20,000 ราย และกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารต่างๆ พร้อมทั้งสามารถต่อยอดไปที่สินเชื่ออื่นๆ ตามวัตถุประสงค์ของลูกค้าแต่ละราย ธนาคารจึงมั่นใจว่าสินเชื่อรายย่อยในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้า 20%
อย่างไรก็ตาม สินเชื่อบ้านในปี 2562 ยังได้รับแรงกดดันจากมาตรการ LTV ทำให้ชะลอตัว ไตรมาส 2/62 ที่ผ่านมา ธนาคารคาดว่าสินเชื่อบ้านทั้งสินเชื่อปล่อยใหม่และสินเชื่อคงค้างของสินเชื่อบ้านจะทรงตัวจากปีก่อน โดยสินเชื่อปล่อยใหม่ จะอยู่ที่ 1 แสนล้านบาท ส่วนสินเชื่อคงค้างอยู่ที่ 6 แสนล้านบาท จากสินเชื่อคงค้างของสินเชื่อรายย่อยทั้งหมดรวม 1 ล้านล้านบาท ซึ่งรวมกับสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ที่มีอยู่ 2.2 แสนล้านบาท และสินเชื่อไม่มีหลักประกันกว่า 6 หมื่นล้านบาท
ด้านแนวโน้มสัดส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ของสินเชื่อรายย่อยในครึ่งปีแรกยังคงทรงตัว โดยที่ธนาคารยังเห็นสัญญาณการผิดนัดชำระหนี้ของลูกค้าเพิ่มขึ้น ลูกค้าส่วนใหญ่ยังคงชำระหนี้ตามปกติ ในช่วงครึ่งปีหลังการปล่อยสินเชื่อของธนาคารยังคงต้องมีความระมัดระวังอยู่ เพราะภาวะเศรษฐกิจที่ยังไม่เห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจน และเผชิญกับปัจจัยที่ส่งผลต่อความไม่แน่นอน ทำให้ธนาคารต้องระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ และควบคุมคุณภาพหนี้ให้เป็นไปตามแผนที่จะควบคุม NPL ของสินเชื่อรายย่อยให้ต่ำกว่าปีก่อนที่ 2.6%
อ่านประกอบ