MILL ยกเลิกซื้ออาคาร-โกดังเก็บสินค้า หันรุกธุรกิจเทรดดิ้ง

HoonSmart.com>> “มิลล์คอน สตีล” ยกเลิกซื้อทรัพย์สิน อาคารสิ่งปลูกสร้าง “อาร์.เอส.พี.สตีล” หลังปรับโครงสร้างกิจการ รุกเทรดดิ้งขยายตลาดทั่วประเทศ ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เก็บสินค้า

บริษัท มิลล์คอน สตีล (MILL) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 8 ก.ค.2562 อนุมัติให้บริษัท สหร่วมวัสดุก่อสร้าง จำกัด (สหร่วม) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ยกเลิกการซื้อทรัพย์สินของบริษัท อาร์. เอส. พี. สตีล จำกัด (RSP) ซึ่งเป็นอาคารสำนักงาน โกดังและอื่นๆ พร้อมที่ดิน 11 ไร่ บางกระดี่ บางขุนเทียน กรุงเทพฯ ที่ปัจจุบันสหร่วมใช้พื้นที่ของ RSP ในการจัดเก็บสินค้าอยู่ เนื่องจากบริษัทมีแผนปรับโครงสร้างของบริษัท โดยโอนกิจการบางส่วนของบริษัท (Partial Business Transfer : PBT) ขณะที่บริษัทจะดำเนินธุรกิจเทรดดิ้งร่วมของสหร่วมในการขยายตลาดในกรุงเทพฯและภูมิภาคต่างๆ ในประเทศ ทำให้สหร่วมไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ของ RSP ในการจัดเก็บสินค้า จึงไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่ของ RSP ต่อไป

ทั้งนี้ การปรับโครงสร้างบริษัทฯ เป็นไปตามที่มติที่ประชุมผู้ถือหุ้น เมื่อวันที่ 26 เม.ย.2562 อนุมัติ

สำหรับเงื่อนไขในการยกเลิกการซื้อทรัพย์สิน สหร่วมจะต้องจ่ายค่าใช้ทรัพย์สินให้แก่ผู้จะขายจากการที่สหร่วมเข้าใช้ทรัพย์สินของ RSP เท่ากับค่าเช่าตามราคาตลาด ตั้งแต่วันที่เข้าใช้พื้นที่ 20 พ.ค.58 – 30 มิ.ย.62 รวมระยะเวลา 49 เดือน คิดเป็นมูลค่า 29.4 ล้านบาท ซึ่งจะถูกนำมาหักกับค่าซื้อทรัพย์สินที่ทางสหร่วมได้เคยทยอยจ่ายเป็นเงินมัดจำไปแล้ว 19.25 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามสหร่วมได้เจรจาขอใช้พื้นที่ต่ออีก 3 เดือน นับจากบันทึกข้อตกลงขยายระยะเวลาให้ใช้ทรัพย์สินที่จะซื้อจะขายครบกำหนด เพื่อใช้ในการขนย้ายทรัพย์สินออกจากพื้นที่ของ RSP โดยไม่มีค่าใช้พื้นที่ และหรือค่าปรับปรุงพื้นที่

บริษัท สหร่วม จัดตั้งขึ้นเมื่อวันที่ 19 พ.ค.58 เพื่อดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล็กและวัสดุก่อสร้าง ให้แก่กลุ่มบริษัท โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายคือลูกค้ารายย่อย และลูกค้าต่างจังหวัด ต่อมา RSP ซึ่งเป็นนิติบุคคลที่เกี่ยวโยงกันของบริษัท แต่กลุ่มบริษัทไม่มีการถือหุ้นใน RSP นั้น มีความประสงค์ที่จะเสนอขายทรัพย์สินให้แก่บริษัทและสหร่วม ซึ่งมีการกระบวนการและใช้เวลาการดำเนินการนาน จึงได้เจรจาขอใช้ประโยชน์จากที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และเครื่องจักรของ RSP รวมถึงทำ “บันทึกข้อตกลงให้ใช้ทรัพย์สินที่จะซื้อจะขาย” ฉบับลงวันที่ 20 พ.ค.58 โดยไม่มีการคิดค่าตอบแทนระหว่างสหร่วม กับ RSP จนกว่าการซื้อขายจะเสร็จสิ้น

อย่างไรก็หากสหร่วมไม่สามารถทำการซื้อทรัพย์สินภายในระยะเวลาที่ตกลงกันสหร่วมจะต้องจ่ายค่าใช้ทรัพย์สินให้แก่ผู้จะขายจากการเข้าใช้ทรัพย์สินดังกล่าว เท่ากับค่าเช่าตามราคาตลาด โดยสหร่วมได้มีการทำ “บันทึกข้อตกลงขยายระยะเวลาให้ใช้ทรัพย์สินที่จะซื้อจะขาย” กับ RSP เรื่อยมาจนถึง 30 มิ.ย. 60 ซึ่งเป็นวันที่”บันทึกข้อตกลงขยายระยะเวลาให้ใช้ทรัพย์สินที่จะซื้อจะขาย” จะครบกำหนด

ต่อมาเมื่อถึง 30 มิ.ย.60 สหร่วมยังไม่สามารถซื้อทรัพย์สินจาก RSP ให้สำเร็จได้ จากสหร่วมไม่สามารถผลักดันยอดขายได้ตามเป้า จึงมีความจำเป็นต้องนำเงินที่มีอยู่ไปใช้หมุนเวียนในกิจการก่อน จึงได้เจรจากับ RSP เพื่อขอชะลอซื้อทรัพย์สินดังกล่าว และขอทยอยจ่ายค่าซื้อทรัพย์สินให้กับ RSP โดยได้ทำบันทึกข้อตกลงขยายระยะเวลาให้ใช้ทรัพย์สินที่จะซื้อจะขายออกไปจนถึง ณ วันที่ 30 มิ.ย.62 ขณะที่สหร่วมได้ทยอยจ่ายค่าซื้อทรัพย์สินเป็นจำนวน 19.25 ล้านบาทไปแล้ว ก่อนจะนำมาซึ่งการยกเลิกซื้อทรัพย์สิน